09.00 INDEX เริ่มจาก อานันท์ ปันยารชุน ทะยานสู่ สุรยุทธ์ จุลานนท์
คล้อยหลังเสียงบริพาษต่อ 4 อดีตนายกรัฐมนตรีดังก้องมาจากภายในพรรคพลังประชารัฐ นายชวน หลีกภัย ก็ปล่อยชื่ออดีตนายก รัฐมนตรีอีกท่านหนึ่งออกมา
นั่นก็คือ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานคณะองคมนตรีในรัช กาลปัจจุบัน
แม้จะเพียงขอ “ความเห็น” มิได้ถึงกับดึงมาเป็น “กรรมการ”
แต่นี่ก็สะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่นเป็นอย่างสูงของ นายชวน หลีกภัย ในสถานะแห่งประธานรัฐสภาที่จะเดินหน้าในเรื่องของคณะ กรรมการสมานฉันท์อย่างเต็มสูบ
ไม่เพียงเพราะว่าคณะกรรมการชุดนี้มีรากฐานมาจากการเสนอ อย่างจริงจังจากพรรคประชาธิปัตย์โดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคลงมาแสดงเอง ประการเดียว
หากที่สำคัญเป็นอย่างมากคณะกรรมการสมานฉันท์คือแสงไฟที่จะส่องให้เห็นหนทางที่จะก้าวเดินไปในกาลข้างหน้า
ก่อนที่ “ปัญหา” จะบานปลายกลายเป็น “วิกฤต”
คนมักมองภาพของ นายชวน หลีกภัย ในด้านที่เป็น “ชวน เชื่องช้า” หรือเป็นเงาสะท้อนของ “ปลัดประเทศ” แต่อาจลืมความจัดเจนในระดับ “เขี้ยว” อย่างยิ่งในทางการเมือง
หากไม่เขี้ยวก็ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะสามารถยืนระยะการเป็น ส.ส.จากเดือนกุมภาพันธ์ 2512 ยาวมาถึงเดือนมีนาคม 2562
หากไม่เขี้ยวก็ยากเป็นอย่างยิ่งที่ ส.ส.จากจังหวัดตรัง ไกลปืนเที่ยงห่างไกลจากกรุงเทพมหานคร ศูนย์กลางแห่งอำนาจจะผงาดขึ้นดำรงตำแหน่งใหญ่ในทางการเมืองได้
ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งหัวหน้าพรรค ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งประธานรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
เป็นวิทยายุทธ์อันศึกษามาจาก นายควง อภัยวงศ์ เป็นวิทยา ยุทธ์อันศึกษามาจาก ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็นวิทยายุทธ์อันศึกษา มาจาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
ไม่เพียงแต่คนอย่าง นายไพบูลย์ นิติตะวัน จักพึงระวัง หากแม้กระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ต้องสำเหนียก
จังหวะก้าวของ นายชวน หลีกภัย ในการส่งเทียบเชิญอดีตนายกรัฐมนตรีจึงมิได้มีเพียงแต่กับ นายอานันท์ ปันยารชุน เท่านั้น หากแต่ยังพร้อมเข้าปรึกษากับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์
สะท้อนให้เห็นว่า “คณะกรรมการสมานฉันท์” ไม่ธรรมดา
การมอง นายชวน หลีกภัย จึงต้องมองไกล มองไปยัง นายอา นันท์ ปันยารชุน มองไปยัง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ์
มองทะลุ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ไปด้วย