อ.สุรชาติ ชวนย้อนกลับไปสมัยปธน.คาร์เตอร์ ชี้ หาก ‘ไบเดน’ ชนะ ปชต.ไทย จะถูกจับจ้องมากขึ้น
วันนี้ (6 พ.ย.) ศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับรายการ The Politics ถึงสถานการณ์การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในไทย หากกรณี “ไบเดน” ชนะ เรื่องการสร้างประชาธิปไตยในไทย อาจจะถูกจับจ้องกลับมาให้คุณค่ามากขึ้นกว่าเดิม
ย้อนติดตาม : “สุรชาติ”มองหาก”ไบเดน” ขึ้นมา การสร้างประชาธิปไตยในไทย จะถูกจับจ้องมากขึ้น
ศ.ดร.สุรชาติ มองว่า ต้องยอมรับว่า พรรคเดโมแครตให้ความสนใจกับเรื่องของการสร้างประชาธิปไตย ทิศทางอย่างนี้ จะมีผลอย่างไรกับประเทศไทยหรือไม่ ส่วนตัวอยากชวนหลายคนที่อาวุโส ย้อนกลับไปเมื่อในสมัยที่ประธานาธิบดีจิมมี่ คาร์เตอร์ขึ้นเป็นผู้นำที่ทำเนียบขาว แล้วประกาศนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนออกมา หลายท่านคงจำได้ว่า เมื่อประธานาธิบดีคาร์เตอร์ รับตำแหน่งได้สักระยะหนึ่ง พอถึง ปี1976 ซึ่งตรงกับเหตุการณ์ปี 2519 ที่กทม. ประเทศไทยถูกขึ้นบัญชีในฐานะประเทศที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน รัฐบาลไทยในขณะนั้นก็หงุดหงิดว่า ทั้งๆที่เราเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงที่ใกล้ชิดกัน ทำไมทำเนียบขาวขึ้นบัญชีไทย ในฐานะประเทศที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วย ซึ่งต้องทำความเข้าใจว่า วันนั้นสหรัฐไม่ได้ขึ้นบัญชีแค่กับไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชาติพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับสหรัฐในลาตินอเมริกันที่เคยมีส่วนร่วมต่อต้านสงครามคอมมิวนิสต์ด้วยกันมาด้วย
“ผมกำลังมองดูว่า เหตุการณ์จะย้อนยุคไปเหมือนกับในสมัยประธานาธิบดีคาร์เตอร์หรือไม่ ก็เมื่อนโยบายที่หันมาให้ความสำคัญกับคุณค่าบางอย่าง เช่น เรื่องประชาธิปไตย เรื่องสิทธิมนุษยน จะมีส่วนต่อการเมือง ซึ่งไม่ใช่แค่การเมืองไทยอย่างเดียว เดี๋ยวจะกลายเป็นว่า สหรัฐเข้ามาบีบไทยเหมือนอย่างที่กลุ่มอนุรักษ์นิยมไทยปัจจุบันว่า อเมริกันกำลังแทรกแซง บีบไทยให้ทำตามสหรัฐ เป็นต้น แต่ต้องทำความเข้าใจว่า นี่คือทิศทางของนโยบายชุดใหญ่ที่เราจะเห็นชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง หลังจากการสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ในช่วงกลางเดือนมกราคม 2564 ซึ่งว่า ต้องตามดูจริงๆ เพราะแนวโน้มไบเดนคงมา แต่ผลกระทบยังต้องคิดต่อว่า จะกระทบต่อทั้งโลก ทั้งไทยอย่างไร อย่างที่เราพูดเสมอว่า การเลือกตั้งสหรัฐ ไม่ใช่แค่การเลือกตั้งผู้นำทำเนียบขาวของสังคมอเมริกันเท่านั้น แต่มันคือการตัดสินใจเลือกผู้นำการเมืองโลก” ศ.ดร.สุรชาติ กล่าว
