เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การค้าโลก กล่าวถึงการชุมนุมภายในประเทศส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจหรือไม่ ว่า ในขณะนี้ทั่วโลกมีปัญหาไม่แตกต่างจากประเทศไทย ทั้งปัญหาที่เกิดจากภาวะโรคระบาดที่ไปกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนมีความอดทนต่อการบริหารประเทศของรัฐบาลน้อยลง ซึ่งในต่างประเทศมีการชุมนุมประท้วงกันไม่ต่างจากประเทศไทย ตนจึงอยากให้มองว่าการชุมนุมในประเทศเราเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยร่วมกันต่อไปในอนาคต เนื่องจากระบอบประชาธิปไตยมีความขัดแย้งกันได้ แต่ต้องขอให้อยู่ในขอบเขต เพราะหากความขัดแย้งอยู่นอกขอบเขต จะนำไปสู่สิ่งที่เราไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ทั้งนี้ส่วนตัวตนเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจดีถึงขอบเขตว่ามีอะไรอยู่บ้าง และถ้าทุกอย่างอยู่ในขอบเขต ก็ไม่น่าจะมีผลกระทบอะไร ส่วนคนที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ก็ต้องเข้าใจว่า สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของระบอบการปกครองของเรา เป็นประชาธิปไตยของไทย
“การมาลงทุนในบ้านเรา เขาก็ดูในหลายๆเรื่อง ไทยมีระบอบการปกครองที่มั่นคงแข็งแกร่ง มีสถานภาพที่มีความน่าเชื่อถือ ตลอดเวลาการแก้ไขเรื่องโรคระบาด เราได้รับความน่าเชื่อถือสูงขึ้นมามาก แม้มีการประท้วงหรือมีอะไร ผมฟังจากหลายฝ่าย จากคนที่จะมาลงทุนในประเทศเรา สิ่งที่สำคัญที่สุดของเขาเวลานี้คือ การที่เรามีความสำเร็จในด้านการยับยั้งการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสได้เป็นอย่างดี” นายศุภชัย กล่าวและว่า ปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบันไม่ได้เกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากโรคภัย ซึ่งถ้าเรามีวินัยแก้ปัญหาโรคภัยได้ การฟื้นคืนเศรษฐกิจจะเป็นไปโดยธรรมชาติ ขอให้อดทน ส่วนรัฐบาลต้องพยายามไปหาทรัพยากรมาอุดหนุนให้คนตกงานน้อยที่สุด และทำให้ธุรกิจล้มน้อยที่สุด นอกจากนี้ หลังจากฟื้นตัวของเศรษฐกิจแล้ว สิ่งที่ต้องเร่งแก้ไข คือการรักษาเสถียรภาพของการเงินการคลังของประเทศให้ดีขึ้น