เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ห้องโรงแรมเวสต์เกต เรสซิเดนซ์ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี คณะก้าวหน้านำโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และนางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ หัวหน้าคณะทำงานคณะก้าวหน้านนทบุรี จัดงานแถลงข่าวนโยบายท้องถิ่นคณะก้าวหน้า และแถลงข่าว ” NONTHABURI BLUEPRINT & PRESS CONFERRENCE “มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนประมาณ 120 คน
นายธนาธร กล่าวว่า ไม่มีการเลือกตั้งท้องถิ่นมานาน บางคนพึ่งเลือกครั้งแรกจึงมีความสำคัญเพราะท้องถิ่นใกล้ชิดกับประชาชน เรามีสิทธิเลือกตัวแทนของเราเข้าไปใช้อำนาจแทนเราได้ 5 ครั้ง ใน 4 ปี ปกติที่ไม่มีการรัฐประหาร คือ 1.เลือกตั้งระดับชาติ โดย ส.ส.มีหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติไม่ใช่ฝ่ายบริหาร 2.เลือก นายก อบจ. 3.เลือก ส.อบจ. 4.เลือก อบต.,เทศบาล
5. เลือก ส.อบต.,สท. การเลือกตั้งท้องถิ่น เช่น อบจ.สามารถเลือกผู้บริหารได้เองโดยใช้สิทธิ 2 ใบ คือ นายก อบจ. และ ส.อบจ. ต่างกับการเลือกตั้งระดับชาติที่เราเลือก ส.ส. และ ส.ส.ไปเลือก นรม.โดยรูปแบบ เทศบาล กับ อบต. ก็เลือกได้ 2 ใบเช่นกัน การเมืองในระดับท้องถิ่นใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด ให้คุณให้โทษ ผู้ว่าฯ กำนัน ไม่ได้ แต่ให้คุณให้โทษผู้บริหารท้องถิ่นได้หากผลงานไม่ดีเราก็ไม่เลือกให้เข้ามารับตำแหน่งอีก เราต่างก็ไม่ค่อยสนใจการเมืองท้องถิ่นเพราะมองว่าการเมืองเป็นเรื่องสกปรก การที่ไม่สนใจจึงทำให้การเมืองท้องถิ่นถูกผูกขาดอยู่กับบ้านใหญ่
นายธนาธร กล่าวด้วยว่า ปัญหาของแต่ละจังหวัดไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างนโยบายของผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรสงคราม ที่จะทำเรือเมล์รับส่งนักท่องเที่ยวแต่ละจุด กล่าวถึงปัญหาเกี่ยวกับ IUU ที่ทำให้เรือประมงไม่สามารถออกหาปลาได้ จึงมีนโยบายเปลี่ยนเรือประมงเป็นเรือท่องเที่ยวแม่น้ำแม่กลอง พูดถึงการเดินทางสาธารณะใน จ.ปราจีนบุรี มีนโยบายจัดทำรถเมล์ สาธารณะใน จ.ปราจีนบุรี พูดถึง จ.อ่างทอง ที่มีปัญหาสังคมผู้สูงอายุผู้สมัครของเราตระหนักถึงปัญหาดี จึงมีนโยบายทำบ้านพักคนชรา ทำศูนย์บริบาลผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง เป็นต้น
ถ้าเรามีวิสัยทัศน์ เจตนาที่ดีที่จะรับใช้ประชาชน สิ่งที่พูดมาอยู่ในอำนาจของ นายก อบจ. เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่าการเลือก ส.ส. ซึ่งกว่า ส.ส. จะออกกฎหมายที่ส่งผลมาถึงเราเป็นเรื่องที่ไกลมาก ขอเชิญชวนทุกคนให้สนใจการเมืองท้องถิ่นเพราะเป็นภาษีของพวกเรา
นายไพบูลย์ กิจวรวุฒิ ผู้สมัครนายก อบจ.นนทบุรี สังกัดคณะก้าวหน้า กล่าวเสนอวิสัยทัศน์ว่า 1.การคมนาคมครบวงจร จะแก้ปัญารถติดต้องทำให้ประชาชนมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ
– การส่งเสริมระบบขนส่งสาธารณะโดยการดึงคนออกมาจากตรอกซอกซอยมาสู่ถนนหลัก
– ส่งเสริมอาชีพให้คนนนทบุรีมีงานทำในจังหวัดซึ่งจะทำให้มีการเดินทางน้อยลง
– จะนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างเหมาะสม โดย จ.นนทบุรี มีกล้อง cctv จำนวนมากที่เราไม่ได้ใช้ประโยชน์ซึ่งเราจะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์
– จะแก้ปัญหาในเรื่องจุดจอดรถ กลับรถ จุดพักรถ ที่ออกแบบมาอย่างไม่ถูกหลักวิทยาศาสตร์
2.เศรษฐกิจชุมชน จะส่งเสริมใน 7 ธุรกิจ ประกอบด้วย
– Eco Sport park
– Green packaging ชุมชน
– EV Bus
– Smart application
– Smart watch สูงวัย
– นมแพะโรงเรียน
– Food processing
3.สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม
– Green city
– คืนคลองใสสู่ชุมชน
– ส่งเสริมศักยภาพโรงพยาบาลชุมชน จะลดความแออัดในโรงพยาบาลรัฐ , ใช้เทคโนโลยี (นาฬิกาฉุกเฉินเพื่อผู้สูงอายุ) ในการตรวจติดตามผู้ป่วยสูงอายุของโรงพยาบาลชุมชน
4.อิสระแห่งการเรียนรู้ เด็กในโรงเรียนไม่กล้าคิดกล้าแสดงออก เราจะส่งเสริมการเรียนรู้เชิงรุก ให้เด็กกล้าแสดงความคิดเห็น โจมตีอาหารในโรงเรียนสังกัด อบจ.ว่าคุณภาพต่ำ เราจะดูแลในเรื่องคุณภาพของอาหารรวมถึงโภชนาการอื่นๆ และ 5.ขยะเพิ่มมูลค่า
นายไพบูลย์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 8 ปี มีปัญหามากมายที่ต้องแก้ไขอยู่ตรงนี้มา 20 ปี (ในยุคนายก อบจ.นนทบุรี คนที่ผ่านมา) ขอโอกาสให้ตนและคณะด้วย ต่อมานายไพบูลย์ฯ ตอบคำถามของผู้ร่วมกิจกรรม และได้แนะนำตัวผู้สมัคร ส.อบจ.นนทบุรี ในสังกัดคณะก้าวหน้า จำนวน 33 คน
จากนั้นนายธนาธร และคณะ เดินทางไปพบปะประชาชนที่ตลาดพระปิ่น 3 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ฯ โดยหลังจากเดินทางมาถึงตลาดฯ นายธนาธรฯ ได้ปราศรัยเชิญชวนให้สนับสนุน ดร.ไพบูลย์ฯ ชี้ให้เห็นความสำคัญของการเมืองท้องถิ่น นายก อบจ. สามารถพัฒนาพื้นที่ได้โดยไม่ต้องขึ้นกับส่วนกลางสามารถแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้เอง จากนั้นได้เดินพบปะพูดคุยแจกแผ่นพับประชาสัมพันธ์ผู้สมัครกับประชาชน และพ่อค้าแม่ค้า ในตลาดฯ พร้อมทั้งเชิญชวนให้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ และได้ยุติกิจกรรมในเวลา 18.30 น.
