‘ภูมิธรรม’แจง 5 ข้อพิจารณาจากผลประชามติ แนะเตรียมหาทางออกจากวิกฤตครั้งใหม่

“ภูมิธรรม” โพสต์ 5 ข้อพิจารณาจากผลประชามติ

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ข้อพิจารณาบางประการจากผลของประชามติ 1.ขอชื่นชม และขอขอบคุณทุกความคิดเห็นที่ออกมาใช้สิทธิ กำหนดอนาคตประเทศในการลงประชามติเมื่อ 7 สิงหาคม 2559 2.การทำประชามติ ที่ผิดธรรมชาติเป็นการทำประชามติ ภายใต้บรรยากาศที่มีการข่มขู่คุกคามฝ่ายผู้มีความเห็นต่างอย่างรุนแรง มีการควบคุมตัว ตั้งข้อกล่าวหา จับกุมคุมขังผู้เห็นต่าง ที่ผิดไปจากมาตรฐานของการใช้กระบวนการยุติธรรมปกติ มีการใช้กลไกภาครัฐอย่างเต็มที่ อาทิ ใช้งบประมาณมากกว่า 3,000 ล้านบาท ใช้บุคลากรภาครัฐทั้งฝ่ายความมั่นคง (ทหาร/ตำรวจและฝ่ายปกครอง) และของกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ เกือบทุกระดับ เพื่อมาดำเนินการผลักดันให้การทำประชามติบรรลุเป้าหมายตามที่คณะผู้ร่างและจัดทำ ต้องการ จนอาจกล่าวได้ว่า การทำประชามตินี้ ไม่เสรี ไม่เป็นธรรม และไม่เป็นธรรมชาติ ตามมาตรฐานที่ประเทศประชาธิปไตยทั่วโลกเขาทำกัน 3.การทำประชามติ ที่ประชาชนต้องการหลุดพ้นจากวิกฤต เกิดขึ้นภายใต้บรรยากาศที่ประชาชนส่วนใหญ่มีความรู้สึก และต้องการที่จะก้าวให้พ้นออกจากสภาพวิกฤตที่ชีวิตพวกเขากำลังเผชิญ เพราะการที่คนส่วนใหญ่ของประเทศ กำลังเผชิญกับวิกฤตการทางเศรษฐกิจ และความเดือดร้อนในการทำมาหากิน และมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะก้าวให้พ้นจากข้อจำกัดที่ควบคุมพวกเขา ภายใต้รัฐบาลอำนาจพิเศษ ในสถานการณ์พิเศษปัจจุบัน ย่อมเป็นภาวะอึดอัดที่ทุกคนอยากก้าวให้พ้นโดยเร็ว การรับร่างรัฐธรรมนูญ จึงเป็นช่องทางสำคัญหนึ่ง ที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งเพื่อหลุดพ้นจากภาวะที่ไม่พึงปรารถนาได้เร็วที่สุด และเห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนที่สุด การรับร่างรัฐธรรมนูญจึงเป็นคำตอบสุดท้ายที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งที่หลุดพ้นจากภาวะอึดอัดในปัจจุบัน

นายภูมิธรรมระบุอีกว่า 4.อนาคตที่ต้องใคร่ครวญ โจทย์ที่ต้องคิดต่อ น่าเสียดายที่ผลของประชามติ ได้ก่อให้เกิด รธน.ฉบับใหม่ ที่มีความเป็นประชาธิปไตยน้อยกว่าฉบับเดิมที่ถูกฉีกทิ้งไป และน่าเป็นห่วงว่า อนาคตผลจากการใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะนำมาซึ่งปัญหาใหม่ ที่ไม่มีวันรู้จบ เพราะสาระสำคัญข้างหน้าจะเปิดโอกาสให้เกิดนายกฯ คนนอก และการสืบต่ออำนาจของกลุ่มผู้มีอำนาจปัจจุบันต่อไป รวมทั้งภายใต้กรอบคิดและความต้องการของคณะผู้ร่างที่ปรารถนาจะควบคุมรัฐบาลต่อจากนี้ไป ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์บังคับเดินต่อไปอีก 20 ปี หรือการทำให้ รธน.นี้แก้ไขได้ยากหรือแทบแก้ไม่ได้เลย จะเป็นปัญหาสำคัญในอนาคตที่คอยฉุดรั้งประเทศไม่ให้ก้าวไปข้างหน้าได้โดยง่าย ก็หวังว่าโจทย์ในอนาคต จะได้รับการใส่ใจจากผู้มีอำนาจปัจจุบัน และหวังว่ากลุ่มผู้มีอำนาจที่ประสบความสำเร็จในการผลักดันร่าง รธน. ฉบับนี้ทุกท่าน จะไม่หลงลำพองในชัยชนะชั่วคราวที่เกิดขึ้น และไม่ละเลยที่จะคิดป้องกันปัญหาที่จะเกิดในอนาคต และ 5.ทางออกของวิกฤตการณ์ใหม่ ข้อเสนอที่ฝากให้พิจารณาให้เตรียมคิดทางออกในวิกฤตการณ์ใหม่ที่อาจเกิดขึ้น ประเทศต้องเดินหน้าต่อไป ปัญหาวิกฤตต่างๆ ของประเทศยังดำรงอยู่ กระบวนการหาทางออกของประเทศต่อจากนี้ไป ยังต้องให้ความสำคัญกับกระบวนการตามวิถีทางของประชาธิปไตย และการมีส่วนร่วมของคนทุกฝ่ายในสังคม ให้เข้ามาร่วมหาทางออกจากวิกฤตที่จะเกิดขึ้น ประเทศเป็นของทุกคนต้องร่วมกันก้าวต่อไปให้พ้นวิกฤต

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image