‘สตรีอีสาน’ เดือด! บอก ประชาชน-ชาวนา เจียนตาย ให้รัฐเสวยสุข ขอ จนท.สู้เคียงข้าง ‘แม้สิ้นชีพ ยังคงศักดิ์ศรี’
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นจุดนัดหมายชุมนุมของกลุ่ม ‘ราษฎร’ ในเวลา 16.00 น. ก่อนจะเดินขบวนเพื่อยื่นจดหมาย
เวลา 15.00 น. ผู้ชุมนุมหญิงกล่าวปราศรัยเป็นภาษาอีสาน ว่า บอกว่าเข้ามารักษาความสงบ จะเข้า 7 ปีแล้ว มันสงบหรือไม่ เงินหมด โรงงานเจ๊ง คนได้ประโยชน์คือเจ้าสัว ประชาชนมีแต่ตายกับตาย เก็บของกลับบ้านสนั่นหวั่นไหว ผัวเมียเลิกกันเพราะไม่มีจะกิน ชาวนามีแต่ตาย ปุ๋ยก็แพง ซื้อเจ้าสัวกิน กฎหมายบังคับประชาชน จงร่วมกันออกมาต่อต้านเผด็จการ
“สิ่งที่เราได้จากประยุทธ์คืออดีต มีแต่ความยากจน ประชาชนจะตาย คนเสวยสุขคือเขา ประยุทธ์ทำอะไรก็ไม่เคยผิด แต่ประชาชนทำอะไรก็ผิด เอากฎหมายข่มขู่ประชาชน มีที่ไหน เงินกู้คือเงินบริจาค เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ไม่เคยได้ยิน
“ภาษีประชาชน แม้แต่ลวดหนาม แบริเออร์ที่ขนมาตั้ง ก็คือเงินเรา ขนมาทำร้ายประชาชน เงินเดือนก็มาจากภาษีประชาชน แต่เอามาทำร้ายประชาชน อยากฝากไปถึงตำรวจ ทหาร อย่าไปรับใช้ประยุทธ์ ชาติจะไปข้างหน้าต้องยืนเคียงข้างประชาชน ถึงจะตาย แต่คุณยังมีศักดิ์ศรี มาร่วมต่อสู้กับประชาชน ประชาธิปไตยเป็นของประชาชน เราต้องอยู่แบบประชาธิปไตย ลูกหลานต้องได้อยู่ดีกินดี มีสวัสดิการ เบี้ยสูงอายุวันละ 10-20 บาท อยู่ได้หรือไม่” ผู้ชุมนุมหญิงกล่าว
ผู้ชุมนุมหญิงกล่าวต่อว่า ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่เคียงข้างประชาชนวันนี้ ก็เป็นขี้ข้าจนตาย แล้วอนาคตจะบอกลูกหลานอย่างไร อยากบอกคนทางบ้าน ขอให้ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ถ้าประยุทธ์อยู่ต่อมีแต่แย่ คนปิดสนามบิน สถานีทีวี ไม่ผิด
“จะโดนเป็น 10 คดีก็ยอม เพื่อลูกหลานเรา เราต้องการอยู่ดีกินดี มีชีวิตที่ดีกว่านี้ ออกมาไล่ประยุทธ์ ให้ยุบสภา ส.ว.250 คน ไม่สร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติ มีแต่กินภาษีประชาชน”
จากนั้นมวลชนตะโกน “ประยุทธ์ออกไป”
