“ไพบูลย์” ปัดย้อนแย้ง ร้องตีความร่างแก้ไขรธน.ฉบับที่เสนอ อ้างตอนแรกยังไม่เห็นปัญหา

“ไพบูลย์” ปัดย้อนแย้ง หลังเสนอญัตติตีความร่างแก้ไขรธน.ฉบับที่ร่วมลงชื่อ บอก ตอนเสนอยังไม่เห็นปัญหา ยันไม่มีใบสั่ง ลั่นโหวตรับแน่ 2 ร่าง ด้าน “สมชาย” ปัดเติมเชื้อไฟม็อบ

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กับ นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แถลงข่าวชี้แจงกรณีร่วมกันเสนอญัตติเพื่อให้รัฐสภาส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม จำนวน 3 ฉบับที่ให้มีการแก้ไขมาตรา 256 และตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยนายไพบูลย์ กล่าวว่า การเสนอญัตติดังกล่าวมาจากการที่ถูกทักท้วงว่า รัฐสภาไม่มีอำนาจในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในฐานะที่ตนได้ร่วมลงชื่อในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล ยืนยันว่า ไม่ใช้การกระทำที่ย้อนแย้ง เพราะตอนร่วมเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่เห็นปัญหา แต่เมื่อตอนนี้มีปัญหาแล้วก็ควรทำให้เกิดความชัดเจนก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสิ้นสุดทั้งกระบวนการ เมื่อรัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ได้กำหนดให้รัฐสภามีอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว การเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อทำรัฐธรรมนูญใหม่ จึงเป็นปัญหาว่ากระทำได้หรือไม่

“ช่องทางการส่งศาลรัฐธรรมนูญโดยรัฐสภาตามมาตรา 210 (2) เป็นการเปิดให้รัฐสภามีส่วนร่วม โดยให้มีการพิจารณารับหลักการร่างรัฐธรรมนูญในวาระที่ 1 ไปก่อน แล้วค่อยให้รัฐสภาพิจารณาในญัตติเรื่องการส่งศาลรัฐธรรมนูญ โดยเราอยากให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นโดยไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น หากเริ่มต้นด้วยความชัดเจนแล้วจะทำให้ทุกอย่างราบรื่น เราไม่ได้มีเจตนาจะถ่วงแต่อย่างใด หากถึงที่สุดแล้วรัฐสภามีมติเสียงข้างมากเห็นด้วยก็จะเป็นการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญต่อไป”นายไพบูลย์ กล่าว

เมื่อถามว่า การเสนอเช่นนี้ จะทำให้รัฐสภาไม่ลงมติในวาระที่ 1 หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ยืนยันว่าในวันที่ 17-18 พฤศจิกายนนี้ ส่วนตัวจะออกเสียงเห็นด้วยกับรัฐสภาในการรับหลักการในวาระที่ 1 เป็นการแยกระหว่างการทำหน้าที่ระหว่างสมาชิกรัฐสภาที่ต้องการให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กับในฐานะนักกฎหมายที่เห็นว่า เมื่อมีปัญหาข้อกฎหมายก็ควรส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ทั้งนี้ไม่ได้มีความรู้สึกว่าจะตั้งธงใดๆทั้งสิ้น ส่วนตัวเชื่อว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ให้ตั้งส.ส.ร.ของพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้านจะผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา และส่วนตัวก็จะรับร่างของรัฐบาลและฝ่ายค้าน ส่วนร่างของไอลอว์ เห็นว่า ยังผิดกฎหมายอยู่มาก หากไม่มีการยื่นญัตตินี้ไว้ก่อน เชื่อว่า จะมีส.ว.หลายคนไม่สบายใจและงดออกเสียงในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อมีการยื่นญัตติดังกล่าวแล้ว ย่อมทำให้ส.ว.สบายใจพร้อมจะเห็นด้วย และจะลงมติรับหลักการในวาระที่ 1

เมื่อถามว่า ในเมื่อรัฐธรรมนูญมาตรา 256 (9) กำหนดไว้อยู่แล้วว่าสามารถเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ภายหลังรัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นทั้ง 3 วาระ แต่กลับมาเสนอญัตติให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อนทั้งที่รัฐสภายังไม่ได้มีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายไพบูลย์ กล่าวว่า การส่งเรื่องไปยังศาลมีหลายช่องทาง และการใช้มาตรา 210 (2) เป็นเพียงช่องทางหนึ่งเท่านั้น เพราะไม่ว่าอย่างไรเรื่องนี้จะต้องมีการส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้เป็นการเสนอตั้งแต่ต้นเพื่อให้เกิดความชัดเจนและทำให้ถูกต้องและช่วยให้การดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้โดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม หากที่สุดแล้วรัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นทั้ง 3 วาระ ส่วนตัวก็จะไม่ใช้สิทธิตามมาตรา 256 (9) เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาอีก

Advertisement

เมื่อถามว่าการกระทำรอบนี้สังคมตั้งคำถามว่ามีใบสั่งมาจากผู้ใหญ่ในรัฐบาล นายไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยว เพราะประเด็นดังกล่าว ส.ว. ทักท้วงว่ามีปัญหาข้อกฎหมาย ดังนั้น ควรทำให้ได้ข้อยุติเพื่อไม่ให้มีปัญหา

ด้าน นายสมชาย กล่าวว่า ส.ว.มีหน้าที่ในการกลั่นกรองกฎหมาย ร่างรัฐธรรมนูญที่บัญญัติให้มีการตั้งส.ส.ร.นั้น ไม่ค่อยสบายใจในข้อกฎหมาย เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดให้เขียนรัฐธรรมนูญทั้งฉบับใหม่ได้เหมือนกับรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ยืนยันว่าไม่มีความมุ่งหมายในการยื้อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นการเสนอให้รัฐสภาพิจารณาเรื่องนี้ภายหลังได้ผ่านขั้นตอนการรับหลักการในวาระที่ 1 ไปก่อน เมื่อวันที่ 17-18 พฤศจิกายนนี้ รัฐสภารับหลักการแล้ว จึงมาพิจารณาว่าจะส่งศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ต่อไปตามขั้นตอน

เมื่อถามว่า การเสนอญัตติดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มความขัดแย้งอีกหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ได้เติมเชื้อไฟในความขัดแย้ง แต่เป็นการทำให้ถูกต้อง เพราะหากรัฐสภาทำไม่รอบคอบและศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ากระทำโดยมิชอบ ยิ่งจะทำให้เกิดความเสียหาย และการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องยุติลง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image