ไทยมุ่งสานต่ออาเซียน-อินเดีย หนุนการเชื่อมโยงในภูมิภาค ร่วมมือกันพัฒนา ศก.-สังคม

ไทยมุ่งสานต่ออาเซียน-อินเดีย สนับสนุนการเชื่อมโยงในภูมิภาค ร่วมมือกันพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้ฟื้นตัวได้อย่างเข้มแข็ง ครอบคลุมและยั่งยืน

เมื่อเวลา 17.50 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมและกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย ครั้งที่ 17 ผ่านระบบประชุมทางไกล โดยมีผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนจากทั้ง 10 ประเทศ พร้อมด้วยนายนเรนทร โมที นายกรัฐมนตรีอินเดีย

นายกรัฐมนตรีอินเดีย กล่าวย้ำถึงความสำคัญของอาเซียนว่า เป็นศูนย์กลางของนโยบายมุ่งตะวันออกของอินเดีย และพร้อมจะร่วมกับอาเซียนเพื่อเอาชนะความท้าทายต่าง ๆ รวมทั้งด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคม ผ่านกรอบความร่วมมือต่าง ๆ โดยย้ำความร่วมมือกันรับมือกับโรคโควิด-19 ทั้งในส่วนของยา การป้องกัน การรักษา ต้องส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระบบสาธารณสุข และการวิจัย อินเดียยินดีส่งเสริมการพัฒนากับประเทศอาเซียน และสนับสนุนการเชื่อมโยงด้านดิจิทัล เพื่อเป็นส่วนสำคัญของการเชื่อมโยงระหว่างอาเซียนกับอินเดีย รวมทั้งประสงค์เพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุน ตลอดจนยินดีที่จะมีการทบทวนกลไก และความร่วมมือภายหลังโควิด-19 เพื่อเพิ่มความร่วมมือในอินโด-แปซิฟิก ซึ่งอาจขยายไปสู่ความร่วมมือด้านการต่อต้านการก่อการร้าย และความร่วมมืออื่นๆ ที่จะสร้างประโยชน์ร่วมกัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในฐานะที่ไทยเป็นผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-อินเดีย อาเซียนยินดีกับการมีส่วนร่วมของอินเดียในภูมิภาคตามแนวนโยบายมุ่งตะวันออก และเห็นว่าความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งระหว่างกันซึ่งจะช่วยเสริมสร้างสันติสุข เสถียรภาพ และความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ตลอดจนเพิ่มพูนความเข้าใจของประชาชนทั้งสองฝ่าย ส่งเสริมความร่วมมือเพื่อรับมือกับผลกระทบของโรคโควิด-19 และเร่งให้เศรษฐกิจและสังคมฟื้นตัวได้อย่างเข้มแข็ง เชื่อว่าอินเดียจะให้การสนับสนุนอาเซียนในทุกโครงการด้านสาธารณสุข โดยอาเซียนคำนึงถึงความสำคัญของความร่วมมือเพื่อส่งเสริมความมั่นคงด้านสุขภาพ โดยเฉพาะความร่วมมือในการวิจัย พัฒนา ผลิต กระจายยาและวัคซีนต้านโควิด-19 เพื่อให้เป็นสินค้าสาธารณะของโลก ตลอดจนแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ และยินดีที่จะผลักดันความร่วมมือภายใต้กลไกที่อาเซียนมีบทบาทนำ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อาเซียนคำนึงถึงความสำคัญของการบรรลุเป้าหมายการค้าร่วมกันจำนวน 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐให้ได้ภายในปี ค.ศ.2020 โดยส่งเสริมให้มีการใช้ประโยชน์จากเขตการค้าเสรีอาเซียน-อินเดียอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยอาเซียนจะยึดมั่นต่อระบบการค้าพหุภาคีที่ตั้งอยู่บนกฎกติกา และขอย้ำว่า อาเซียนยังคงรอต้อนรับอินเดียในการเข้าร่วมความตกลง RCEP และพร้อมสนับสนุนสภาธุรกิจอาเซียน-อินเดีย เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน และหวังที่จะพัฒนาความร่วมมือในการการพัฒนาขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่ SMEs ผู้ประกอบการสตรี และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ตลอดจน อาเซียนสนับสนุนให้อินเดียมีบทบาทส่งเสริมการดำเนินการตามแผนแม่บท ว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน ค.ศ.2025 (MPAC 2025) สอดคล้องกับแนวคิด “การเชื่อมโยงระหว่างยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงต่าง ๆ” ของอาเซียน โดยจะผลักดันโครงการถนนสามฝ่ายอินเดีย-เมียนมา-ไทย และส่วนขยายไปยัง สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนามให้ดำเนินการได้แล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนดไว้ พร้อมยินดีที่อินเดียสนใจจะขยายความร่วมมือทางทะเลกับอาเซียน ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถแสวงหาแนวทางที่เหมาะสมได้ภายใต้หลักการของ AOIP และ IPOI รวมทั้งชื่นชมบทบาทของอินเดียในการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมไอทีในกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม รวมทั้งการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในอาเซียน

Advertisement

“อาเซียนมุ่งหวังที่จะขับเคลื่อนความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ระหว่างอาเซียนกับอินเดียให้ก้าวหน้าอย่างรอบด้าน ครอบคลุมทั้งสามเสาของประชาคมอาเซียนตามแนวทางภายใต้แผนปฏิบัติการฉบับใหม่ ค.ศ.2021-2025 เพื่อให้ภูมิภาคเติบโตอย่างเข้มแข็ง พร้อมรับมือกับโอกาสและความท้าทายต่าง ๆ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image