เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่สนามโรงเรียนพานพิเศษพิทยา อ.พาน จ.เชียงรายกลุ่มผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่อ.พาน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนางสาว วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เบอร์ 3 สังกัดพรรคเพื่อไทย โดยมีแกนนำคนสำคัญของพรรค เช่น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง,นายอดิศร เพียงเกศ ,นายกอบแก้ว พิกุลทอง พร้อมผู้สมัครสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายเขตอ.พาน,แม่ลาว,ป่าแดด,เทิง สลับกันขึ้นปราศรัยบนเวที มีประชาชนในอ.พานและอำเภอใกล้เคียงให้ความสนใจมารับฟังการปราศรัยกว่า 1,000 คน
โดยนางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ผู้สมัครนายกอบจ.เชียงราย เบอร์ 3 ยังคงปราศรัยชู 3 ประเด็น หลักตามสโลแกน “ยิ้มยกกำลังสาม” โดยข้อแรก ให้คนเชียงรายยิ้มได้ เลิกจนมีงานทำทุกคน จะผลักดันเชียงรายให้เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก เชียงรายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยศิลปะและวัฒนธรรม การกีฬา จะผลักดันเชียงรายให้เป็นที่รู้จักระดับโลก จะเสริมทักษะการศึกษาให้เด็กรุ่นใหม่ ตามความฝันของตนเอง พี่น้องเกษตรกรสามารถขายสินค้าเกษตรได้เองโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ขายโดยตรงให้กับผู้ซื้อ ที่สำคัญจะพัฒนาสินค้าให้เป็นที่ต้องการในตลาดโลก การศึกษาโดยการนำร่องของโรงเรียนอบจ. ลูกหลานชาวเชียงรายจะต้องพูดได้อย่างน้อย 3 ภาษา ไทย อังกฤษ จีน และอีกภาษาสำคัญคือภาษาโค้ดดิ้ง ภาษาคอมพิวเตอร์ ที่มีความสำคัญในทุกวันนี้ เพื่อติดต่อค้าขายออนไลน์ได้เองที่ไม่ต้องพึ่งใคร
ข้อสอง เชียงรายเต็มไปด้วยศิลปะวัฒนธรรม มีวัดดีๆหลายแห่ง มีครูบาอาจารย์มีศิลปิน ศักยภาพเหล่านี้สามารถชูเชียงรายให้ชาวโลกได้เห็น และอยากผลักดันการท่องเที่ยวเชิงกีฬา อยากให้เด็กเยาวชนสามารถเข้าสู่อะคาเดมี หรือทีมเยาวชน ผลักดันลูกหลานเชียงรายเข้าสู่การกีฬา ดึงเด็กเยาวชนเข้ามาทำงานกับทีมสิงห์เชียงรายยูไนเต็ด ในแขนงต่างที่นอกเหนือจากการเป็นนักกีฬาฟุตบอล เช่น ทีมโค้ช พีอาร์คอมพิวเตอร์ หรือหน้าที่ต่างๆ ให้เป็นที่รู้จักเชิงกีฬา ไปทั่วโลก การพัฒนาอาหารพื้นเมืองเหนือ วัฒนธรรมล้านนา ให้นักท่องเที่ยวมาชิมอาหารเหนือ แต่งกายชุดคนเมือง ให้ได้รู้จักวัฒนธรรมชาวเหนือ มาเดินเที่ยวตลาด สิ่งต่างๆเหล่านี้ ยิ้มจะดึงผลักดันให้เชียงราย เชื่อมโยงกับประตูโลก
ข้อสาม ครอบครัวจะต้องกลับมาอบอุ่นอีกครั้ง การที่เราดึงนักท่องเที่ยวมาที่เชียงราย พัฒนาการค้าแล้ว ลูกหลายเชียงรายก็ไม่จำเป็นต้อง ไปทำงานไกลถึงกรุงเทพฯหรือต่างจังหวัด มีงานมีเงินเดือน สร้างงานสร้างรายได้ในจังหวัดเชียงราย
ต่อจากการปราศรัยของวิสาระดี ก็จะเป็นการพูดปราศรัยของอดิศร เพียงเกศ ,ยงยุทธ ติยะไพรัช, และ ร.ต.อ.เฉลิมอยู่บำรุง ชูประเด็นการสนับสนุนตามมติของพรรคเพื่อไทย ที่เชื่อมโยงการเมืองท้องถิ่นกับการเมืองระดับประเทศ เมื่อการเมืองท้องถิ่นแข็งแกร่ง การเมืองระดับประเทศก็จะแข็งแกร่งไปด้วย พร้อมชูนโยบายต่างๆของพรรค เช่น กองทุนหมู่บ้าน หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ เลือกวิสาระดี เป็นนายกอบจ.เชียงราย เบอร์ 3 และผู้สมัครส.อบจ.ยกทีม
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่าที่ผ่านมาจังหวัดเรามีความมั่นคงแต่ขาดการบริหารจัดการ เช่นกระทรวงมหาดไทยหากเพื่อไทยได้มาเป้นรัฐบาลจะเลือกผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมาจากการเลือกตั้ง ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน ตนเคารพมติพรรค พรรคส่งใครลงสมัครตนก็จะไปที่นั่นไว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะรักใจจะขาดตนก็ไปไม่ได้ เพราะรักยิ้มมาก่อนแล้ว
ด้านนายอดิศร กล่าวว่าการเลือกผู้สมัครจากพรรคเข้าไปบริหารสภา จะทำให้สามารถตรวจสอบการทำงานได้ หากทำดีทางพรคชรคก็สนับสนุน หากทำไม่ดีประชาชนสามารถร้องมายังพรรคเพื่อไทยให้แก้ไขปรับปรุงตัวได้ การบริหารงานไม่สามารถทำได้เพียงพื้นที่ จะต้องเชื่อมโยงกับส่วนกลางหรือคนอื่นๆทั่วโลก
ต่อจากนั้นในช่วงบ่ายทีมแกนนำพรรค เฉลิม อดิศร ยงยุทธ กอบแก้ว และคนอื่นๆในพรคเพื่อไทย รวมถึง ผู้สมัครนายกอบจ.เชียงราย ยิ้มวิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ พร้อมผู้สมัคร ส.อบจ. เขตเชียงราย ได้เดินทางไปปราศรัยที่ สิงห์สเตเดียม ในตัวเมืองเชียงรายต่อไป