‘สุดารัตน์’ ชี้ ‘บิ๊กตู่’ ศูนย์รวมปัญหา ทางออกประเทศมีนายกฯคนเดียวแก้ได้ ย้ำ 17-18 พ.ย.บทพิสูจน์ความจริงใจ

‘สุดารัตน์’ ชี้ นายกฯคือศูนย์รวมปัญหา แต่ทางออกของประเทศมีแค่นายกฯคนเดียวแก้ได้ เรื่องง่ายสุดคือ รธน. ย้ำ 17-18 พ.ย.นี้ เป็นบทพิสูจน์ความจริงใจ

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ตลาดนัดจตุจักร คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในสภาวันที่ 17-18 พฤศจิกายนนี้ ว่า เรื่องการเมืองขออนุญาตออกตัวก่อนว่าตนให้สัมภาษณ์ในนามส่วนตัว ไม่ได้เป็นความเห็นขององค์กรใด ซึ่งตนมองว่ารัฐบาลโดยเฉพาะนายกฯ ที่ปัญหาทั้งหมดอยู่ที่นายกฯ ดังนั้น คนที่จะคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งได้คือนายกฯเพียงคนเดียวจริงๆ

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า จะเห็นได้ว่าเรื่องง่ายที่สุดที่จะทำให้ความเห็นต่างทางการเมืองถูกคลี่คลายไปได้คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่รัฐบาลก็แสดงความไม่จริงใจมาหลายครั้งแล้ว ตั้งแต่ตอนปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญ เรื่องแก้รัฐธรรมนูญที่ควรเอาเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมสภาแล้วพิจารณาในวาระที่ 1 แต่กลับไปตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) ขึ้นมาซ้อนอีก 1 ชุด ดึงเวลาไปอีก 1 เดือน ก็ยังดึง จากนั้นก็มี ส.ว. ร่วมกับ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มายื่นศาลรัฐธรรมนูญก็ยิ่งทำให้เกิดความระแวงไปอีก ครั้งนี้เป็นโอกาสสุดท้ายคือวันที่ 17-18 พฤศจิกายนนี้ วัดความจริงใจของนายกฯ เพราะการแก้รัฐธรรมนูญจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ได้อยู่ที่นายกฯคนเดียว แม้นายกฯจะบอกว่าอยู่ที่สภา แต่ถ้านายกฯได้แถลงข่าวสักครั้งหนึ่งว่าจริงใจเต็มใจที่จะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ตนเชื่อว่า ส.ส.พปชร.ที่ไปยื่นตีความก็จะถอนชื่อทั้งหมด รวมทั้ง ส.ว.ด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตนได้เสนอไปเป็นโรดแมป 3 ขั้น ก็จะเป็นสิ่งที่สามารถแก้ไขวิกฤตได้จริงๆ ซึ่งในวันที่ 17-18 พฤศจิกายนนี้ หากนายกฯประกาศเสียก็จะสามารถผ่านทั้งสามวาระได้ภายใน 1 เดือน จากนั้นนายกฯพิจารณาเลยว่าจะเสียสละเพื่อประเทศตามข้อเรียกร้องหรือไม่ หรือจะมีอะไรเป็นทำมันสัญญาที่จะอยู่ต่อ ซึ่งก็จะสามารถคลายล็อกอีกหนึ่งล็อก และหากนายกฯลาออกก็ควรมีการเลือกกันในสภาต่อไป ทั้งนี้ ตนยังเห็นว่าควรมีคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งที่มีกฎหมายรองรับ และมีเวทีเพื่อให้ผู้ที่มีความเห็นทั้งฝ่ายผู้ชุมนุม ทั้งนายกฯและรัฐบาล รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเป็นกลางมาร่วมหารือกันเพื่อหาทางออกอย่างแท้จริง

Advertisement

เมื่อถามถึงการวินิจฉัยสถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กรณีบ้านพักทหารที่อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับศาล ซึ่งคดีนี้เป็นคดีหนึ่งที่มีการจับจ้องกันของสังคมที่จะมีการพิจารณาด้วยความเที่ยงธรรม เพราะจะเป็นสิ่งที่จะไปเพิ่มหรือลดความขัดแย้งได้เหมือนกัน ส่วนการเลือกนายกฯก็ให้เป็นไปตามระบบ สิ่งที่ตนพูดไม่ได้พูดเพราะตนเป็นแคนดิเดตนายกฯ แต่ตนคิดว่าวันนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือให้บ้านเมืองหาทางออกให้ได้ก่อน ถ้าจะมีนายกฯคนใหม่ก็ควรเลือกจากระบบในสภา อย่าเพิ่มปัญหาความขัดแย้งเท่านั้นเอง เพราะหากเอานายกฯคนนอกอีกก็จะเกิดเป็นปัญหาความไม่ยอมรับกันอีก

เมื่อถามว่า การมาลงพื้นที่รับฟังปัญหาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นเพราะจะตัดสินใจลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครใช่หรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ก็ลงพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด อย่างเมื่อวานก็อยู่ต่างจังหวัด ตรงไหนเดือดร้อนก็ไปฟัง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image