มติ กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา ‘ไทรักธรรม’ จ่อชงศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค ‘พีระวิทย์’ รีบทิ้งเก้าอี้ หน.

มติ กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา ‘ไทรักธรรม’ ฐานให้ทรัพย์สินจูงใจคนสมัครเป็นสมาชิกพรรค ด้านนายทะเบียนฯเตรียมชง กกต.ส่งศาล รธน.สั่งยุบพรรค ขณะที่ ‘พีระวิทย์’ รีบทิ้งเก้าอี้หัวหน้าพรรค ยื่นจดหมายลาออก แถมส่อถูกสอบปมยุบทิ้งสาขาพรรค หลังตั้งขอรับเงินอุดหนุนกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน มีรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีมติให้ดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 30 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองกับ พรรคไทรักธรรม กรณีให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด เพื่อจูงใจบุคคลหนึ่งบุคคลใดสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมือง หลังจากก่อนหน้านี้ กกต.ได้รับเรื่องร้องเรียนว่าพรรคไทรักธรรมมีการซื้อเสียงในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่ผ่านมา แต่เมื่อตรวจสอบแล้วกลับพบว่าเป็นการจูงใจด้วยทรัพย์สินเพื่อให้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค โดยขณะนี้ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง อยู่ระหว่างการเสนอเรื่องให้ กกต.พิจารณาเพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคตามมาตรา 92 (3) ของกฎหมายเดียวกัน

ทั้งนี้ หลังมีกระแสข่าวออกไปว่า กกต.มีมติให้ดำเนินคดีอาญาดังกล่าว นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคมีหนังสือแจ้งมายังนายทะเบียนพรรคการเมืองให้ทราบว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค แต่การลาออกดังกล่าวไม่มีผลให้นายพีระวิทย์พ้นจากความรับผิดหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคไทรักธรรมตามที่ กกต.จะมีการยื่นคำร้องต่อไป เพราะถือว่าขณะที่เกิดการกระทำผิดนายพีระวิทย์ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอยู่ ตามมาตรา 92 กำหนดโทษไว้ว่า เมื่อมีหลักฐานอันควรได้ว่าพรรคการเมืองกระทำความผิดให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งที่ผ่านมาในคดียุบพรรคไทยรักษาชาติและอนาคตใหม่ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี

นอกจากนี้ ยังพบว่าในการยื่นขอรับการสนับสนุนเงินอุดหนุนจากกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมืองปี 2564 ที่มาตรา 83 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนดหลักเกณฑ์การคำนวนเงินเพื่อจัดสรรหาให้กับพรรคการเมือง โดย (4) ให้ใช้จำนวนสาขาพรรคการเมืองมาเป็นเกณฑ์ด้วยนั้น ปรากฏว่า หลังพรรคไทรักธรรมได้แจ้งข้อมูลจำนวนสาขาพรรคของปี 63 ต่อ กกต.เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่ามีสาขาพรรคกว่า 100 แห่งซึ่งถือว่ามากกว่าทุกพรรคการเมือง และกองทุนฯมีมติอนุมัติวงเงินสนับสนุนไปแล้ว ก็พบว่าพรรคไทรักธรรมก็ได้มีหนังสือแจ้งขอยกเลิกสาขาพรรคจำนวน 79 สาขามายัง กกต. ทำให้ขณะนี้ กกต.อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อกฎหมายว่าจะสามารถระงับการจ่ายเงินตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้หรือไม่ เนื่องจากมองว่าเจตนารมณ์ของหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินกองทุนฯที่กฎหมายกำหนดรัฐต้องการให้พรรคการเมืองนำเงินที่ได้ไปบำรุงสาขาพรรค รวมทั้งการที่พรรคมาขอยกเลิกสาขาหลังได้รับอนุมัติวงเงินอุดหนุนแล้วจะถือว่ามีเจตนาไม่บริสุทธิ์

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image