รมต.ต่างประเทศลาวพบ’บิ๊กตู่’ ยินดีผลประชามติ เชื่อมั่นนโยบายรบ.-หนุนโรดแมป

รมต.ต่างประเทศลาวพบ “บิ๊กตู่” หารือรอบด้าน ยินดีผลประชามติ เชื่อมั่นนโยบายรัฐบาล หนุนเดินหน้าโรดแมป

เมือเวลา 09.30 น. วันที่ 10 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสะเหลิมไซ กมมะสิด (H.E. Mr. Saleumxay Kommasith) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและคณะ เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในโอกาสเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการ (Official Visit) โดยภายหลังการหารือ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศลาว ได้กล่าวแสดงความยินดีต่อผลการลงประชามติ และชื่นชมต่อนโยบายของรัฐบาลไทย โดยรัฐบาลลาวสนับสนุนการปฏิรูปตามโรดแมป และเห็นว่า ความสงบและความเจริญก้าวหน้าของไทย เป็นเงื่อนไขสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาของ สปป.ลาว โดยสองฝ่ายต่างเห็นพ้องว่าความสัมพันธ์ทวิภาคีในปัจจุบันอยู่ในจุดที่ดีที่สุด และพร้อมจะร่วมกันขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างกันให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป

พล.ต.วีรชนกล่าวว่า ระหว่างการสนทนา มีการติดตามผลการเยือนไทยของของนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีแห่ง สปป.ลาว ในด้านต่างๆ ประกอบด้วยด้านความเชื่อมโยงในภูมิภาคและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ไทยสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อเชื่อมโยงไทย-ลาว และเชื่อมต่อไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาค โดยนายกรัฐมนตรีเสนอให้พิจารณาการสร้างความเชื่อมโยง โดยใช้หลักการว่า อะไรที่ทำได้เร็ว ให้ทำก่อน ไม่ว่าจะเป็นเส้นทาง R12 และสะพานเชื่อมโยงระหว่างกัน เพื่ออำนวยความสะดวกการไปมาหาสู่ระหว่างกัน โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดน และช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและการดำรงชีพอย่างยั่งยืนของประชาชนในพื้นที่ ด้านการค้าการลงทุน นายกรัฐมนตรีได้ขอให้รัฐบาลลาวช่วยดูแลนักลงทุนไทยที่เข้าไปลงทุนยัง สปป.ลาว โดยเฉพาะการให้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎระเบียบและอำนวยความสะดวก ซึ่งทางฝ่ายลาวเองพร้อมสนับสนุนไทยเพื่อให้เป็นนักลงทุนอันดับ 1 ในลาวเช่นกัน โดยที่ไทยพร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนต่างชาติ การจัดตั้งศูนย์ One stop service และระบบ E-government ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนต่างชาติมากขึ้น

พล.ต.วีรชนกล่าวว่า ด้านความร่วมมือด้านพลังงาน สองฝ่ายยินดีที่มีการเพิ่มพูนความเชื่อมโยงด้านพลังงานไฟฟ้าไทย-ลาว โดยไทยจะขยายการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าภายใต้กรอบ MOU ว่าด้วยความร่วมมือด้านการพัฒนาไฟฟ้าในลาว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย แบตเตอรี่แห่งเอเชีย ที่สำคัญของลาว จึงขอให้หน่วยงานของทั้งสองฝ่ายเจรจาและหารือให้มีความคืบหน้าและเสร็จสิ้นโดยเร็ว สำหรับความร่วมมือด้านแรงงาน นายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการแรงงานลาวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยอย่างเป็นระบบ โดยขอให้ฝ่ายลาวพิจารณา การจดทะเบียนพิสูจน์สัญชาติมาจากทางฝั่งลาว เพื่อช่วยลดขั้นตอนการดำเนินการในไทย และเพื่อให้แรงงานลาวที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ซึ่งทางฝ่ายลาว เห็นว่ามีประโยชน์ต่อแรงงานลาวและจะนำไปเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image