“ช่อ”บุกสำรวจศูนย์วิทยาศาสตร์ เพชรบูรณ์ อ้างถูกปล่อยโทรม ปลัด อบจ.แจงตั้งงบฯปี 63 เตรียมปรับปรุงแล้ว
วันที่ 21 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนเพจคณะก้าวหน้าได้โพสต์ภาพ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ พร้อมข้อความระบุว่า “บุกศูนย์วิทยาศาสตร์สุดเรโทรของ อบจ. เพชรบูรณ์” โดยเนื้อหามีการพาดพาดพิงถึงสภาพของศูนย์วิทยาศาสตร์ฯ ได้ถูกปล่อยทิ้งทรุดโทรมอุปกรณ์เครื่องมือส่วนใหญ่ใช้การไม่ได้ ข้อมูลและรูปแบบของนิทรรศการล้าสมัย พร้อมนำเสนอว่าหากอาคารนี้ถูกปรับปรุงให้ทันสมัย กลายเป็นศูนย์เรียนรู้ดิจิทัลที่เด็กก็ใช้ได้ ผู้ใหญ่ก็มาเรียนรู้เพิ่มได้ รอบๆ มีสนามเด็กเล่น มีลู่วิ่งที่ได้มาตรฐานรอบบึงสำหรับการออกกำลังกาย มีลานกิจกรรมที่เปิดให้วัยรุ่นมาโชว์เต้นบีบอย สเก็ตบอร์ดหรือเบรกแดนซ์ได้ทุกวันหยุด โดยเสนอว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้หากมี อบจ.ที่มีวิสัยทัศน์ก้าวหน้า จากนั้นชักชวนให้ร่วมกำหนดอนาคตไปกับ อนาคตใหม่เพชรบูรณ์ ด้วยการกลับบ้านไปเลือกตั้งในวันที่ 20 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ทั้งนี้ คณะก้าวหน้าได้ส่งนายสิทธิชัย ต๊ะอาจ ลงรับเลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบูรณ์ และยังส่งทีมผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ส.อบจ.เพชรบูรณ์ในนามคณะก้าวหน้าด้วยกันเกือบ 20 เขตอีกด้วย
ด้านนายพงศ์พล แสนนอก รองปลัด อบจ.เพชรบูรณ์ รักษาการ ผอ.กองการศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม ซึ่งรับผิดชอบดูแลศูนย์วิทยาศาสตร์ ให้สัมภาษณ์โดยชี้แจงว่า ข้อมูลที่เพจคณะก้าวหน้านำเสนอมีความคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ศูนย์เรียนรูปวิทยาศาสตร์ฯ ที่หนองนารีแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 2553 ยอมรับว่าตั้งแต่ก่อสร้างเสร็จและเปิดให้บริการยังไม่เคยมีการปรับปรุงภายใน สภาพจึงเสื่อมโทรมและอุปกรณ์มีความล้าสมัย ผู้บริหารชุดที่แล้วมีกรจัดทำแผนการปรับปรุงพร้อมโอนงบเหลือจ่ายของปี 2563 มาตั้งจ่ายสำหรับการปรับปรุงสิ่งแสดงและอาคารโดยแบ่งเป็น 2 ส่วนได้แก่ ส่วนภายในอาคารวงเงินราวกว่า 30 ล้านบาทและภายในอาคาร หากจำไม่ผิดวงเงินกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดอยู่ในแผนดำเนินงานเพิ่มเติมของปี 2563 หมดแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างและสอบประเมินตามวิธีราชการอยู่
“สำหรับข้อมูลที่ระบุว่าใช้งบก่อสร้างศูนย์วิทยาศาสตร์ฯแห่งนี้พันกว่าล้านบาทไม่เป็นความจริง ศูนย์วิทยาศาสตร์ฯนี้ใช้งบก่อสร้างราว 50 กว่าล้านบาท และตอนที่เราสร้างเสร็จเปิดให้บริการใหม่ๆ นั้นมีสถิติยอดผู้เข้าชมสูงมาก แต่มาเริ่มลดลงเมื่อราวปี 2560 เพราะสิ่งแสดงเสื่อมโทรมลงและกิจกรรมมีน้อยลง เรายอมรับในข้อเท็จจริงตรงนี้ หลังจากนั้นผู้บริหารชุดที่แล้วจึงเสนอแผนที่จะทำการปรับปรุงโดยใช้เวลาศึกษาอยู่ราว 2 ปี จากนั้นจึงโอนงบมาตั้งเป็นงบเหลือจ่ายเมื่อปี 2563 นี้เอง” นายพงศ์พลกล่าว
