บทนำ : เหยื่อในร.ร.
ในการชุมนุมของเยาวชนระดับมัธยม ในชื่อ “นักเรียนเลว” เมื่อวันที่ 21 พ.ย. มีการแสดงออกที่น่าสนใจหลายอย่าง ทั้งการปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาในระบบการศึกษา ระบบโรงเรียนที่บีบคั้น กำหนดกรอบความคิดการแสดงออก โดยไม่มีคำอธิบายที่เป็นเหตุเป็นผล ที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองน่าจะต้องให้ความสำคัญ ยังได้แก่ กรณีเด็กสาวคนหนึ่งสวมใส่ชุดนักเรียนถือป้าย “หนูถูกครูทำอนาจาร โรงเรียนไม่ใช่สถานที่ปลอดภัย” ซึ่งทำให้เกิดปฏิกิริยาหลายประการ ทั้งในแง่สนใจ และเสนอให้มีการสอบสวน และโจมตีว่าหวังผลทางการเมือง
ที่ไปที่มาของเหตุการณ์ มีสำนักข่าวออนไลน์บางแห่งได้ไปตรวจสอบ พบว่าเด็กสาว
ดังกล่าว ปัจจุบันศึกษาระดับมหาวิทยาลัย และเผยว่าเหตุเกิดเมื่อ 5 ปีก่อน เธอถูกครูกระทำอนาจาร จับหน้าอก จับด้านในตัว ก่อนหน้านี้ เคยถูกครูคนนี้ลวนลามมาแล้ว ด้วยการใช้มือลูบขา และครูให้เธอนั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์ที่ครูเป็นคนขี่ ครูเบรกหลายครั้งเพื่อให้หน้าอกของเธอไปชน แกล้งเปิดปิดไฟหลายๆ ครั้ง เพื่อให้กลัว และเข้ามากอด เรื่องราวถูกปล่อยให้ผ่านไป เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เด็กสาวกลับไปที่โรงเรียน เพื่อขอให้โรงเรียนจัดการกับครูคนนั้น แต่โรงเรียนบ่ายเบี่ยง และไม่ได้ให้ความเป็นธรรม จึงออกมาเตือนทุกคนเพื่อไม่ให้ต้องพบเจอเหตุการณ์ทำนองเดียวกันอีก
เรื่องที่เกิดขึ้นกับเด็กสาวดังกล่าวนี้ กระทรวงศึกษาธิการไม่ควรเพิกเฉย แต่ต้องเร่งสอบสวน นำเอาความจริงออกมา และหากพบว่าครูกระทำผิด ก็ต้องลงโทษครูที่กระทำอนาจารอย่างตรงไปตรงมา การลุกขึ้นรวมตัวชุมนุมของกลุ่มนักเรียน ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนว่าระบบโรงเรียนของประเทศไทยกำลังมีปัญหาอย่างปกปิดไม่อยู่ ข่าวครูละเมิดนักเรียนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การเอาผิดต่อครูไม่ชัดเจน และยังปรากฏว่าครูแสดงออกอย่างเปิดเผยว่า เข้าข้างและสนับสนุนครูที่กระทำผิด ทั้งหมดนี้ เป็นการบ้านที่กระทรวงศึกษาธิการต้องเข้าไปรับผิดชอบ ชี้ถูกชี้ผิด และจัดการอย่างเฉียบขาด ให้เป็นบรรทัดฐานเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก ไม่ให้โรงเรียนเป็นพื้นที่อันตรายสำหรับเด็กๆ ดังที่กำลังเกิดขึ้น หากยังแก้ปัญหาในระบบโรงเรียนไม่ได้ ก็ยากที่จะแก้ปัญหาอื่นๆ ได้
