เวลา 19.10 น. วันที่ 22 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้เดินทางทาร่วมสังเกตการณ์การชุมนุม โดยได้ร่วมถ่ายภาพ และพูดคุยกับประชาชน
โดยอมรัตน์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนรู้สึกว่าวันนี้มีคนเสื้อแดงเยอะเป็นพิเศษ ขณะที่เมื่อวานนี้ไปที่ราชประสงค์จะเป็นอีกกลุ่มหนึ่งคือ กลุ่มนักเรียน ซึ่งตนมองว่ามีการต่อสู้เรียกร้องในข้อเดียวกัน ตนจึงอยากมาสนับสนุน แต่มาสนับสนุนแบบเจียมตัว โดยจะมาอยู่วงนอก เพราะไม่อยากให้ภาพที่ออกมามันรู้สึกว่าอยู่เบื้องหลังม็อบ กลัวจะกลายเป็นพลังไม่บริสุทธิ์ อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่มีการใช้แก๊สน้ำตาและการฉีดน้ำกับกลุ่มผู้ชุมนุม และเยาวชน ตนมองว่าไม่เป็นไปตามหลักการสลายการชุมนุมตามหลักสากล และรุนแรงเกินกว่าเหตุ โดยวันนั้นที่ตนอยู่ในรัฐสภาก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่เปิดให้กลุ่มคนเสื้อเหลืองเข้าไปปะทะในลักษณะที่เหมือนจงใจให้เกิดการปะทะระหว่างสองม็อบและการปฏิบัติก็สองมาตรฐาน
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ร่างรัฐธรรมนูญของไอลอว์ที่ถูกตีตกไปในรัฐสภา นางอมรัตน์ กล่าวว่า เศร้าใจ และรู้สึกว่าเป็นสัญญาณของการไม่ปะนีประนอมของฝั่งส.ส.รัฐบาล และฝั่งส.ว. ซึ่งจริงๆ หลักการเป็นแค่การรับหลักการในวาระที่ 1 และสามารถปรับได้ในวาระที่ 2 แต่ ส.ส.ลงชื่อไม่ผ่านก็เป็นสัญญาณว่า ไม่เคยคิดที่จะประนีประนอม ซึ่งไม่เป็นไปตามที่ท่านนายกฯ พูด ทำให้มวลชนรู้สึกว่า คนเป็นแสนๆ คนไม่ได้ฟังกันเลยหรือ แล้วเป็นแค่วาระหนึ่งวาระรับหลักการจริงๆแล้วมันก็รับหลักการไปได้ตลอดไปปรับปรุงจะไปอภิปรายเพิ่มลดอะไรมันก็คุยกันได้ในวาระสองก็ไม่เห็นหัวประชาชนก็มองแบบนี้
“ความรุนแรงไม่เคยเกิดขึ้นจากทางกลุ่มผู้ชุมนุมเลย ไม่ว่าจะเป็นการยิงแก๊สน้ำตา การฉีดน้ำสีที่มีการผสมสารเคมี ที่เราเห็นแล้วว่ามันมีผลกระทบรุนแรงไม่ทราบว่าไม่มีความรู้ในการผสมสารเคมีหรือยังไง ทำให้ผู้ที่โดนแก๊สน้ำตา โดนฉีดน้ำในวันหน้าสภาตอนนี้ก็เข้าโรงพยาบาลมีพิษบาดแผลเรื้อรังทางฝ่ายรัฐบาลฝากไปบอก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ด้วย ว่า เขาสร้างบันไดลงให้กับท่านแล้ว ให้ท่านลงบันไดสวยๆ ตอนนี้ดีกว่าก่อนที่จะเป็นทรราช” นางอมรัตน์ กล่าว
