คนเจ็บถูกสลายม็อบหน้าสภายังหนัก เตรียมเอาผิด ‘บิ๊กตู่-ตร.’ ทั้งแพ่ง-อาญา

คนเจ็บถูกสลายม็อบหน้าสภายังหนัก เตรียมเอาผิด ‘บิ๊กตู่-ตร.’ ทั้งแพ่ง-อาญา

วันที่ 24 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สมาชิกพรรค พท. นำผู้บาดเจ็บจากเหตุสลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ร่วมแถลงข่าว นพ.ทศพรกล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้ที่ได้รับผลกระทบจากแก๊สน้ำตา และบาดเจ็บจากการชุมนุมปะทะกับเจ้าหน้าที่หน้ารัฐสภาแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่โดนยิงด้วยปืน มีถูกยิงขาสองคน ส่วนท้องและสีข้างหนึ่งคน รายที่หนักสุดคือถูกยิงขาข้างซ้ายโดยกระดูกหัก ได้รับการผ่าตัดเอากระสุนออกและดามเหล็กไว้ 2.กลุ่มที่หายใจเอาแก๊สและสารเคมีเข้าไป มีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก และยังไอจนถึงวันนี้ และ 3.กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากน้ำที่ผสมสารเคมีแผลเหมือนถูกไฟไหม้ เพราะผิวถูกเบิร์นด้วยสารเคมีจะทำลายผิวหนังตั้งแต่ผิวชั้นนอกจนถึงหนังแท้ เชื้อโรคจะเข้าผิวได้ง่าย หลายคนยังต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล สารเคมีอันตรายมาก เหมือนเป็นการประทุษร้ายประชาชน

นพ.ทศพรกล่าวต่อว่า ขอเรียกร้องรัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมถึงตำรวจไม่ควรจะทำอย่างนี้กับประชาชนอีก ต้องเลิกใช้ความรุนแรงใดๆ ทั้งสิ้นกับประชาชนที่มาชุมนุมโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ ส่วนที่ตำรวจออกมาแถลงชี้แจงว่าได้รับผกระทบเท่ากับประชาชนนั้น ไม่จริง เพราะเป็นการฉีดมาจากฝั่งตำรวจซึ่งอาจได้รับละอองบ้าง แต่คนที่โดนเต็มๆ คือประชาชน การแถลงของตำรวจเป็นเรื่องเหลวไหล ทั้งนี้ ยังมีประชาชนอีกมากที่ได้ผลกระทบ สามารถร้องเรียนเข้ามาที่ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมพรรค พท. โทรศัพท์ 0-2653-4000 และ 0-2653-4001 โดยมีเจ้าหน้าที่คอยรับเรื่องและติดตาม

ซึ่งนอกจากจะประสานงานเรื่องความบาดเจ็บแล้ว จะนำเหตุที่เกิดขึ้นเข้าสู่สภาด้วย โดยผลักดันผ่านกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาต่อไป เพราะในเมื่อรัฐบาลไม่น่าเชื่อถือ พึ่งไม่ได้ ต้องอาศัยอำนาจของสภา อย่างไรก็ตาม ได้เก็บหลักฐานของผู้ที่บาดเจ็บไว้แล้วเพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งทางแพ่งและอาญา เพื่อรักษาสิทธิให้กับผู้บาดเจ็บ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยข้อมูล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและนิติเวชได้เก็บตัวอย่างหลักฐานไว้แล้ว เราจะไม่ปล่อยผ่าน โดยเราจะเอาผิดตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะผู้รับผิดชอบ มาจนถึง ผบ.ตร.

“พล.อ.ประยุทธ์รู้อยู่แล้วว่าปัญหาคือตัวท่านเองที่ไม่ยอมลาออก ดังนั้น ขอเรียกร้องพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) หากท่านถอนตัว พล.อ.ประยุทธ์ก็อยู่ไม่ได้ ปล่อยให้สภา เลือกตั้งนายกฯ คนใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนนอย่างแท้จริง” นพ.ทศพรกล่าว

Advertisement

ด้านนายสุวัฒน์ รัศมีวงศ์ปัญญา ผู้บาดเจ็บจากการถูกฉีดน้ำผสมแก๊สน้ำตา กล่าวว่า ชุมนุมอยู่แยกเกียกกาย ถูกฉีดน้ำ ตอนแรกรู้สึกแปลกๆ ผิวเริ่มแดง รู้สึกว่าน้ำที่ฉีดมาครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อน แสบผิวกว่าเดิมเลยล้างตัว เอาสบู่ฟอก แต่ยังรู้สึกแสบคัน วันรุ่งขึ้นเกิดตุ่มใส ไปหาแพทย์ที่คลินิก โดยตุ่มขึ้นมาเต็มแขนและพุพอง ซึ่งแพทย์คาดว่าน่าจะแพ้สารเคมีในน้ำ วันรุ่งขึ้นแผลไหม้ ตนเป็นไข้ จึงไปโรงพยาบาล ปรากฏว่าแผลติดเชื้อระดับเซลล์ แพทย์ต้องฉีดยาคล้ายมอร์ฟีนเพื่อลดอาการปวด ขณะนี้ยังรักษาไม่หาย ขนาดโดนแค่น้ำใส เลี่ยงไม่โดนน้ำสียังเจ็บขนาดนี้

ด้านนายเกวลัง ธัญญเจริญ ผู้ประสานงานกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชน กล่าวว่า ตนเป็นหนึ่งคนที่ถูกยิงและออกจากโรงพยาบาลแล้ว เบื้องต้นถูกยิงหน้าขาซ้าย กล้ามเนื้อช่วงบนหัวเข่า ไม่โดนกระดูก ส่วนหัวกระสุนมีความสมบูรณ์แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้เพราะเป็นเรื่องของรูปคดี ทั้งนี้ เหตุเปิดฉากยิงเกิดช่วง 20.00 น.โดยประมาณ ตนอยู่แถว ถ.ทหาร คาดว่าเป็นการยิงต่ำ ไม่ได้หวังผลถึงชีวิต โดยก่อนหน้ามีน้องพยาบาลที่ช่วยเหลือคนเจ็บโดนยิงก่อน จากนั้นตนที่จะเข้าไปช่วยต่อถึงโดนยิง ทั้งนี้ อยากฝากตำรวจว่าแม้จะมีตำรวจคุมฝูงชนประจำการอยู่ แต่ขอให้ตำรวจท้องที่เข้ามาระงับเหตุ เพราะในวันเกิดเหตุ มีการขว้างปาหิน โดยที่ตำรวจไม่เข้ามาควบคุมหรือสกัดกั้นเลย ปล่อยให้ผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่ายตีกัน

นายคริส โปตระนันทน์ นักกฎหมาย อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคอนาคตใหม่ พา 3 ผู้ชุมนุมที่ได้รับผลกระทบจากการฉีดน้ำสลายผู้ชุมนุมที่รัฐสภาและแยกเกียกกาย เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.สุรเดช พจนาพงษ์พานิช ผกก.สน.บางโพ เอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐในฐานความผิดตามกฎหมายอาญา ม.157 และความผิดฐานทำร้ายร่างกายพร้อมน้ำตัวอย่างน้ำที่ใช้ฉีดและใบรับรองแพทย์มาประกอบเป็นหลักฐาน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image