‘บิ๊กบี้’ แจง ฮ.ทหารบินใจกลางกรุงหนุนภารกิจขบวนเสด็จ วอนอย่าเชื่อเฟคนิวส์โยงรัฐประหาร

‘บิ๊กบี้’ แจง ฮ.ทหารบินใจกลางกรุงหนุนภารกิจขบวนเสด็จ วอนอย่าเชื่อเฟคนิวส์โยงรัฐประหาร จี้ตัดคำนี้ออกไปจากหน้าสื่อ อย่าให้ปรากฏอีก กร้าว ปท.กำลังดีขึ้นแต่มี ‘ไอ้คนกลุ่มหนึ่ง’ สร้างความไม่สงบ อุบเงื่อนไขจำเป็นทหารออกมา

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่โซเชียลมีเดียมีการแชร์ภาพเฮลิคอปเตอร์บินใน กทม. พร้อมกับเชื่อมโยงกับการทำรัฐประหาร ว่าความจริงตามที่ตนเคยพูดเราชอบนั่งคิดนอนคิดจินตนาการ และคิดไปต่างๆ นานา เชื่อข่าวปลอมหรือเฟคนิวส์ เราต้องเข้าใจว่าเฮลิคอปเตอร์ที่จะบินใจกลาง กทม.ได้ส่วนหนึ่งเป็นของขบวนเสด็จ ซึ่งกองทัพบกได้ทำหน้าที่สนองถวายงานอยู่แล้ว เพราะส่วนใหญ่จะเป็นเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบกที่มีการร้องขอจากสำนักพระราชวังผ่านกรมยุทธการทหารบก เพียงแต่เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องภายในของหน่วยงานราชการที่อยู่ดีๆ จะไปออกข่าวคงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น ต้องวิเคราะห์และพิจารณาว่าอยู่ดีๆ เฮลิคอปเตอร์จะมาบินแบบนี้ได้มีสาเหตุมาจากอะไร ไม่ใช่ไปตีเรื่องโน้นเรื่องนี้ หรือตีความไปต่างๆ นานาแล้วแชร์กันออกไป โดยที่ไม่ได้คิดวิเคราะห์ และไม่ได้มีการสอบถามจากหน่วยงานราชการ ซึ่งขอให้มาสอบถามก่อนที่จะลงข่าว เช่น ถามกองทัพบกว่าเรื่องนี้คืออะไร ทางกรมยุทธการทหารบกจะได้ตอบคำถาม

เมื่อถามว่าขณะนี้มีข่าวลือรัฐประหาร ทำให้คนนำเรื่องนี้มาโยงกัน พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า “ผมบอกว่านักข่าวควรกลับไปพักผ่อนเยอะๆ เห็นหรือไม่ว่าเป็นเฟคนิวส์มาแล้วกี่ครั้ง ผมไปตรวจราชการชายแดน แต่ก็มีข่าวว่าผมไปประชุมที่โน่นที่นี่ตามที่มีกระแสข่าวเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา พอข่าวไม่เป็นจริง ถามว่าใครรับผิดชอบ เมื่อข่าวไม่เป็นจริง ทำไมไม่ถามกลับไปบ้างว่าทำให้หลอกลวงประชาชน ทำไมไม่มีกระแสตีกลับว่าหลอกลวงประชาชน กี่ครั้งแล้วที่มีข่าวแชร์ออกมาอย่างนี้ ดังนั้น การบริโภคข่าวต้องมีสติ ต้องเช็กและตรวจสอบก่อน อย่าไปเชื่อ”

เมื่อถามว่าจะมีการเตือนแกนนำที่ชอบสร้างกระแสข่าวปล่อยอย่างไร พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า ตนเตือนไม่ได้ เพราะไม่ใช่คู่ขัดแย้ง โดยผู้ที่จะเตือนได้คือผู้สื่อข่าว เพื่อให้ประชาชนรับทราบได้ว่าอะไรคือข้อเท็จจริงและข่าวลวง เราควรจะเชื่อถือใคร พูดมาแบบนี้กี่ครั้งแล้ว ควรจะเชื่อหรือไม่เชื่อต่อไปหลังจากนี้

Advertisement

เมื่อถามว่าจะดูแลการชุมนุมในวันที่ 25 พ.ย.อย่างไร พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า ตำรวจมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย ในส่วนของสถานที่ราชการ ทางทหารก็จะทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย หากเจ้าหน้าที่ตำรวจร้องขอมาให้เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ก็จะมีการจัดเจ้าพนักงานไปทำหน้าที่ช่วยเหลือ แต่คนที่จะดูแลเรื่องกฎหมายและการปฏิบัติต่างๆ ว่าใครถูกต้องหรือไม่ถูกต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เมื่อถามถึงการดูแลเขตพระราชฐาน พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า เขตพระราชฐานมีกฎหมายคุ้มครองอยู่แล้วว่าระยะเท่าใดที่เข้าไปได้ และการชุมนุมต้องอยู่ห่าง 150 เมตร โดยมีพระราชบัญญัติที่เป็นเรื่องของนักการเมืองและรัฐสภาทั้งสิ้น ไม่ใช่ทหารและตำรวจกำหนดเอง

เมื่อถามย้ำว่าหมายความว่าการทำรัฐประหารไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า “ผมพูดโดยส่วนตัว ถามว่าในสถานการณ์ตอนนี้ เช่น ที่ จ.เชียงใหม่ นั้นประชาชนมีความสุขเพราะมีการท่องเที่ยว แม้จะยังไม่มีชาวต่างชาติเข้ามา คนไทยจึงช่วยดูแลกันทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศดีขึ้น ถ้าบ้านเมืองสงบเรียบร้อยเรื่องเศรษฐกิจก็จะตามมา แต่ถ้าทำให้บ้านเมืองไม่เกิดความสงบ ปล่อยให้มีข่าวลือต่างๆ ถามว่าจะไปทำแบบนั้นทำไม เพราะคนไทยอีก 60 ล้านคน ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข เขาทำมาค้าขายได้ กับไอ้คนกลุ่มหนึ่งที่มาสร้างความไม่สงบขึ้นมา คือต้องคิดและช่วยกัน สื่อต้องช่วยกันเพราะสำคัญ เนื่องจากคนเชื่อสื่อมากกว่าเชื่อผม อย่างผมพูดไม่เชื่อ ถามว่าอดีต ผบ.ทบ.หลายคนได้พูดมาเชื่อหรือไม่ แต่คนเชื่อสื่อ ดังนั้น สื่อเป็นตัวจักรสำคัญที่ทำให้คนเชื่อ ขณะที่โซเชียลก็มาจากสื่อ เพราะสื่อก็มีโซเชียล โดยโซเชียลมีตัวตนและไม่มีตัวตน ถ้ามีตัวตนแล้วบ่อนทำลายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและ ปอท.ก็จะจัดการ”

เมื่อถามย้ำว่าทำไมข่าวลือการทำรัฐประหารจึงมีออกมาตลอดเวลา พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า ตนไม่รู้ ตนถามว่าทำแล้วมันดีไหม ดีกับประเทศชาติ เศรษฐกิจหรือความเป็นอยู่ของประชาชนหรือไม่ ตนจึงบอกว่าอย่าไปคิดมาก สื่ออย่าไปพูดถึงคำนี้ ขอให้ตัดคำนี้ออกไปจากหน้าหนังสือพิมพ์ หน้าสื่อ และโซเชียล อย่าให้ปรากฏอีก

เมื่อถามต่อว่าหากไม่มีทางออกอื่น พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า ทุกอย่างต้องมีทางออก แต่จะเป็นอย่างไรเท่านั้นเอง ถามว่าทางออกที่ไม่ดีที่ทำให้ประเทศและคนส่วนรวมเดือดร้อน ตนพูดคนเดียวคนไม่เชื่อตน ตนพูดในกองทัพอาจจะเชื่อแค่คนในกองทัพ แต่ประชาชนจะเชื่อสื่อ ดังนั้น สื่อเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่ทำเพื่อขายคลิปหรือขายข่าวที่ขึ้นมาหนึ่งคำแล้วทำให้คนแตกตื่น

เมื่อถามว่าทุกครั้งที่มีการทำรัฐประหารก็มาจากการเกิดเหตุม็อบชนม็อบ พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ทหารและตำรวจก็ห้ามไม่ได้ ซึ่งทุกคนต่างก็มีหน้าที่และต้องช่วยกันทำอย่างไรไม่ให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรงเกิดขึ้น

เมื่อถามว่ามีเงื่อนไขจำเป็นอะไรที่จะทำให้ทหารออกมา พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า ไม่ทราบ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image