‘เพนกวิน’ ชี้ รัฐใช้ ม.112 ‘ประจานประเทศ’ ไมค์ แจง ย้ายที่จัด เลี่ยงปะทะ-หลีกเงื่อนไข รปห. ยึดหลัก ถึงเส้นชัยสง่า ไร้เลือดเนื้อ
สืบเนื่องจากรณีที่กลุ่ม “ราษฎร” ประกาศนัดหมายรวมตัวกันที่ อุนสาวรีย์ประชาธิปไตย ในเวลา 15.00 น. ก่อนเดินเท้าไปยังสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ถนนนครราชสีมา เขตดุสิต กรุงเทพฯ ก่อนจะประกาศย้ายจุดนัดหมาย ไปยัง ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) สำนักงานใหญ่ ในภายหลังนั้น
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ สาขารัชโยธิน ถนนรัชดาภิเษก เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงาน เวลา 15.40 น. นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน พร้อมด้วย นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง แกนนำราษฎร เดินทางมาถึงสถานที่ชุมนุม ก่อนจะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
นายพริษฐ์กล่าวว่า การแจ้งข้อหามาตรา 112 แก่ราษฎรด้วยว่า คือกฎหมายที่ล้าหลัง และเมื่อใช้ขึ้นมาครั้งใดก็จะสร้างความเสื่อมเสียให้กับประเทศชาติเรื่อยไป ขอให้ใครก็ตามที่เป็นต้นคิดเรื่องนี้ อย่ากลืนน้ำลายตัวเอง โดยการใช้กำหนดการเข้ารายงานตัวในภายหลัง
เมื่อถามถึงความกังวลของการชุมนุมเรียกร้อง นายภาณุพงศ์กล่าวว่า ขบวนการของเรายึดสันติวิธีมาโดยตลอด เราเห็นแล้วว่าเจ้าหน้าทำการปิดกั้นเส้นทาง รวมถึงนอกเหนือจากเส้นทางที่เราจะไปสำนักทรัพย์สินฯ ด้วยซ้ำ ซึ่งเราคำนึงถึงความไม่ชอบธรรมที่เจ้าหน้าที่จะเป็นผู้สร้างให้เกิดเงื่อนไขทำรัฐประหาร เราจึงต้องทำการเปลี่ยนสถานที่เพื่อแสดงจุดยืนของเรา
“เรายังไม่อยากปะทะกับใคร ยังไม่อยากให้รัฐสร้างเงื่อนไขให้เจ้าหน้าที่ ในการทำรัฐประหาร เราเห็นว่าเอสซีบีคือส่วนหนึ่งที่มีปัญหาอยู่ ณ ตอนนี้ อีกประการ สิ่งที่เราให้ความสำคัญมากที่สุดคือความปลอดภัยของมวลชน เพราะพวกเราทุกคนไม่ว่าจะ เป็นไมค์ หรือเพนกวินไม่สามารถที่จะเดินไปได้โดยลำพัง ต้องรักษาไว้ซึ่งมวลชนเพื่อเป็นการรักษากระบวนการประชาธิปไตยของเรา เราไม่ต้องการให้ขบวนการของเราเดินไปถึงจุดชัยโดยเสียเลือดเสียเนื้อ แต่ต้องการให้ขบวนการเราได้ไปถึงเส้นชัยด้วยความสง่างาม และความที่เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์อย่างแท้จริง”
เมื่อถามถึงกิจกรรมในวันนี้
นายภาณุพงศ์เผยว่า ต้องรอดูคืนนี้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่แต่ขอบอกไว้ก่อนว่า ยกแรกมักจะเป็นยกลองเชิงเท่านั้น ว่าทางรัฐบาลจะมีการตอบโต้อย่างไรกับประชาชน ส่วนจะมีเซอร์ไพรส์หรือไม่นั้น ต้องรอติดตามชม ไม่อยากให้พลาดด้วยประการทั้งปวง
“ถือว่า ม.112 เป็นเกียรติยศของนักสู้ก็แล้วกัน เพราะไม่ถือว่าเป็นกฎหมายสากล แต่เป็นการทำให้เห็นชัดว่ารัฐบาลก็กลับกลอกกับตัวเองเช่นกัน ในแถลงการณ์ของนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา บอกว่าต้องการดำเนินคดีโดยยึดหลักสากล แต่ทั่วโลกไม่เคยมีการใช้มาตรา 112 กฎหมายมาตรานี้ในโลกนี้มีแค่ประเทศไทยที่เดียว” นายภาณุพงศ์กล่าว
ทั้งนี้ แกนนำบางส่วน เช่น นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ และฟ้าได้สวมชุดเป็ดสีเหลือง โดยมีการตั้งชื่อ เป็ดเล็ก เป็ดใหญ่ เป็ดน้อย โดย เป็ดเล็ก คือ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง
นายพริษฐ์กล่าวว่า วีรกรรมของรัฐบาลประยุทธ์ จีดีพี ติดลบ 10 เปอร์เซ็นต์ถ้วนหน้า
โดย แอม บัณฑิตม.ศิลปากร กล่าวด้วยว่า ยังมีวีรกรรมช่วงโควิด-19 ทำให้ไทยได้รับการยอมรับว่า ประชาชนมีความสามารถดูแลตนเองได้ดีกว่ารัฐบาล และอีกประการ คือการที่รัฐบาลใช้ มาตรา 112 จับคนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย
ด้าน ฟ้า แกนนำราษฎร กล่าวว่า หลอกลวงประชาชนมาขนาดนี้ เมื่อไหร่จะฟังเสียงประชาชน เคยฟังไหม love the way you lie ตอนนี้ประชาชนมากันเยอะแยะมากมาย ไกลสุดลูกหูลูกตา จากนั้น ขอเสียง คนภาคกลาง ภาคอีสาน เหนือ และใต้ ต่อด้วยขอเสียงคนสวย และคนโสด โดยมีสตรีวัยกลางคน ส่งเสียงคนโสดดังสนั่น
ฟ้ายังกล่าวด้วยว่า ตั้งแต่นายกคนนี้เป็นนายกฯ หนี้ กยศ. มีแต่สูงขึ้น และสลากกินแบ่งรัฐบาลขายเกินราคา จาก 80 บาท เป็น 120 บาท เลขไหนดัง ราคา 150 บาท
“ตรวจสลากไม่เกินราคา ไปพัทยาไม่เจอโสเภณี เมืองไทยเมืองพุทธไม่มีเรื่องแบบนี้หรอก” ฟ้า กล่าว
