09.00 INDEX การปะทะความคิดของ 2 ยุค ยุค “อะนาล็อก” กับ ยุค “ดิจิทัล”
หากติดตามการเคลื่อนไหวของ “เยาวชนปลดแอก” ตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฎาคมเรื่อยมาจนถึงเดือนพฤศจิกายน จะเห็นได้ว่าการเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้เป็นการเคลื่อนไหวในเรื่องของ “พื้นที่”
เพียงแต่เป็นพื้นที่ในทาง “ความคิด” มิได้เป็นพื้นที่ในความหมายอันเคร่งครัดในทาง “ภูมิศาสตร์”
เพียงแต่ลักษณะในทางภูมิศาสตร์เสมอเป็นเพียง “เครื่องมือ”
จะเห็นได้จากจุดเริ่มต้นเมื่อเดือนกรกฎาคมเน้นหนักไปที่ 1 อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และ 1 ถนนราชดำเนิน อันมีความหมายในเชิง ประวัติศาสตร์อย่างลึกซึ้ง
จากนั้นก็เลือกแต่ละพื้นที่ตามความผูกพันและต่อเนื่องในด้านความคิด ไม่ว่าจะเป็นแยกราชประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นแยกปทุมวัน ไม่ว่าจะเป็นบนถนนอักษะ
ลักษณะของการเคลื่อนไหวมิได้เป็นการยึดติดกับ “พื้นที่” หากแต่เพียงอาศัยพื้นที่นั้นให้ความหมายในทาง “ความคิด”
จาก “ความคิด”จึงค่อยๆแปรเข้าสู่พรมแดนในทาง “การเมือง”
เมื่อพื้นฐานแห่งการเคลื่อนไหวของ “เยาวชนปลดแอก” เป็นการเคลื่อนไหวในการแย่งชิงพื้นที่ในทาง “ความคิด” หากไม่เข้าใจถึงราก อันเป็นมูลฐานของการเคลื่อนไหวก็จะประเมินผิดพลาด
ไม่ว่าจะจากความจัดเจนในแบบของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ว่าจะจากความจัดเจนในแบบของกปปส.
ยิ่งหากมองจากด้านของ “นปช.” ยิ่งคลาดเคลื่อนไปคนละทีป
ยิ่งหากสวมหัวใจนักการทหารในแบบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอ ชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ยิ่งอยู่คนละ ฟากฝั่งของการตีความและทำความเข้าใจ
ภาพการตั้งรับอย่างที่เห็นหน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน จึงสะท้อนจุดต่างอย่างเด่นชัด ภาพการตั้งรับด้วยคอนเทนเนอร์เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน จึงสร้างความระทึกเป็นอย่างสูง
คนหนึ่งอยู่ในยุค”อะนาล็อก” คนหนึ่งอยู่ในยุค”ดิจิทัล”
ต้องยอมรับว่าด้านหลักในการเคลื่อนไหวยังเป็นแบบอย่างที่เรียกว่า FLASH MOB คือ รบเร็ว ถอยเร็วไม่แปรเปลี่ยน
ตราบใดที่ด้านของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังอยู่ในยุคแห่งอะนา ล็อก ตราบใดที่ “เยาวชนปลดแอก” ยังอยู่ในยุคแห่งดิจิทัล ตราบนั้นจุดบรรจบของทั้ง 2 ฝ่ายย่อมไม่บังเกิด
ไม่ว่ากรรมการ “สมานฉันท์” ไม่ว่า “รัฐธรรมนูญ” ก็ไม่เป็นผล
ยิ่งใช้มาตรการเข้มทาง “กฎหมาย” ยิ่งถ่าง ห่างออกจากกัน