‘แรมโบ้’ อัด ส.ศิวรักษ์ บิดเบือน เหมือนยาหมดอายุ ไม่ควรให้ค่า เตรียมดำเนินคดี

‘แรมโบ้’ อัด ส.ศิวรักษ์ บิดเบือน ไม่ห้ามม็อบแถมเติมเชื้อไฟ เตรียมถอดคำปราศรัย ดำเนินคดี

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ นักเขียนชื่อดัง เข้าร่วมการชุมนุม และปราศรัยถึงการที่นายกฯ นำมาตรา 112 มาใช้ เป็นการขัดพระราชโองการ พร้อมระบุนายกฯชั่วร้ายมาก ต้องบีบให้ลาออกนั้น ว่า เป็นการกล่าวหาใส่ร้ายนายกฯ ที่บิดเบือนมาก ตนกำลังให้ฝ่ายกฎหมายถอดคำปราศรัยที่นายสุลักษณ์โจมตีนายกฯ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และขอย้ำว่า ที่นายกฯนำมาตรา 112 มาใช้ ถือว่าได้ทำตามกฎหมายที่นำใช้กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบัน ซึ่งนาย ส.ศิรักษ์ ก็ย่อมรู้ดีแก่ใจอยู่แล้วว่ากลุ่มผู้ชุมนุมก้าวร้าวจาบจ้วง บิดเบือนใส่ร้ายสถาบัน ให้เกิดความเสียหายอย่างไรบ้าง

“ตนยังขอยืนยันว่านายกฯเป็นผู้ที่มีความจงรักภักดีอย่างมาก ไม่เคยขัดพระราชโองการ และมาตรา 112 ยังมีไว้กับคนที่บิดเบือน ก้าวล่วงพระราชวงศ์ คนเหล่านี้สมควรต้องได้รับโทษให้สาสมแก่ใจ และถือว่า เป็นคนสิ้นคิดและหนักแผ่นดินจริงๆ ดังนั้น นาย ส.ศิรักษ์ อย่าตีมึนกับพฤติกรรมของกลุ่มผู้ชุมนุมที่เกิดขึ้น และควรยอมรับกฎหมายที่มีอยู่ ตนยังมองว่านาย ส.ศิวรักษ์ เป็นผู้ที่อาวุโสมากแล้ว แทนที่จะออกมาห้ามปรามแกนนำกลุ่มชุมนุม ไม่ควรเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มราษฎร แต่ยังไปเติมเชื้อไฟให้ปะทุมากขึ้นอีก ทั้งนี้ ยังให้ท้ายคนล้มเจ้า จาบจ้วงสถาบัน ก้าวร้าว ใส่ร้ายต่อสถาบัน และยังมากล่าวหาโจมตีนายกฯให้เกิดความเสียหาย เช่นนี้คงไม่สามารถจะปล่อยให้เกิดขึ้นอีกต่อไปได้ จึงยืนยันว่าจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายให้เด็ดขาด”

นายสุภรณ์กล่าวอีกว่า นาย ส.ศิวรักษ์ เปรียบเหมือนตะวันใกล้ตกดิน ไม่ควรออกมาสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมือง ตั้งแต่หนุ่มจนแก่ทำประโยชน์อะไรให้กับประเทศชาติบ้าง มีแต่คอยจาบจ้วง ก้าวล่วงสถาบันมาโดยตลอด คนประเภทนี้ไปอยู่ที่ไหนก็หนักแผ่นดิน มีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ มีแต่คิดร้ายต่อสถาบัน ตายไปก็ตกนรกลงกระทะทองแดง เพราะไม่สำนึกต่อคุณแผ่นดินและพระบารมีบูรพกษัตริย์ไทยที่ปกป้องให้มีแผ่นดินอยู่อาศัย

“นายสุลักษณ์ได้ดำรงชีวิตตั้งแต่เด็กจนแก่เฒ่ามา จนเกือบจะใกล้ลงโลงอยู่แล้ว ยังไร้จิตสำนึกอีก คนแบบนี้เปรียบเหมือนภาษิต “แก่เพราะอยู่นาน” ไม่มีประโยชน์ต่อแผ่นดินเลยสักนิด เปรียบเสมือน “ยาหมดอายุ” ไม่ควรให้ค่า และนาย ส.ศิวรักษ์ ก็มีอายุมากแล้ว ควรเอาเวลาไปเลี้ยงหลานหรือเข้าวัดทำบุญมากกว่า จะได้ไถ่บาปที่คิดร้ายต่อสถาบันตลอดมาทั้งชีวิต และไม่ควรออกมาเคลื่อนไหว สร้างความวุ่นวายให้บ้านเมืองอีกต่อไป” นายสุภรณ์กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image