ราษฎรนัดเบิ้ม วันนี้ 5 แยกลาดพร้าวซ้อมต้านปฏิวัติ

ราษฎรนัดเบิ้ม วันนี้ 5 แยกลาดพร้าวซ้อมต้านปฏิวัติ อายัดตัวมือยิงการ์ดชุมนุมหน้า SCB ตั้ง3ข้อหาหนัก “โตโต้”- “ครูใหญ่” เฮ!ศาลยกคำร้องฝากขัง

เป็นที่สงสัยว่าการชุมนุมของกลุ่มราษฎรในวันนี้จะนัดรวมพลกันที่ไหนนั้น ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โพสต์ข้อความระบุว่า ได้กลิ่นแปลกๆ มีใครกำลังเสียบกุญแจรถถังรออยู่หรือเปล่า วันที่ 27 พฤศจิกายน เวลา 16.00 น. ขอนัดหมายที่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว เพื่อการซ้อมต้านรัฐประหาร ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นมีกระแสรัฐประหารเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนั่นเป็นสิ่งไม่ควรเกิดขึ้น แต่ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาสอนให้รู้ว่าเราไม่สามารถวางใจได้ ด้วยเหตุนี้ จึงขอเชิญทุกท่านมาร่วมชุมนุมกัน เพื่อซ้อมรับมือกับการรัฐประหารที่มีโอกาสเกิดขึ้น รัฐประหารคือการล้มล้างการปกครอง และถ้ากาลนั้นมาถึง ประชาชนจะไม่ยอมอีกต่อไป แล้วเจอกัน

อย่างไรก็ตามเมื่อกลางดึกวันที่ 25 พฤศจิกายน เกิดเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่การ์ดผู้ชุมนุมราษฎร ทำให้นายประชากร ศักดิ์ศรีเท้า อดีตนักศึกษาอาชีวะย่านปทุมธานี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่หน้าแมคโดนัลด์ ดิอเวนิว รัชโยธิน และนายภาสพงศ์ กุลอมรกานต์ อายุ 25 ปี อดีตนักศึกษาอาชีวะย่านมีนบุรี ถูกควบคุมตัวไว้ได้และนำตัวส่งโรงพยาบาล

ข่าวแจ้งว่าพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ขอศาลอาญาออกหมายจับนายภาสพงศ์ 3 ข้อหา ได้แก่ พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่รับอนุญาต, และพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ โดยได้อายัดตัวดำเนินคดีหลังจากรับการรักษาจากแพทย์แล้วเสร็จ ซึ่งศาลอนุมัติออกหมายจับแล้ว

นายเกวลัง ธัญญะเจริญ หัวหน้าการ์ดภาคีประชาชน หรือเก่ง อาชีวะ และ บก.เอ็ม ปลดแอกชี้แจงว่า เหตุการณ์นั้นมีน้องๆ คนเจ็บ เข้ามาช่วยงานดูแลมวลชนและมีผู้ไม่หวังดีประมาณ 8 คนเข้ามาทำร้าย ทั้งนี้ ระหว่างนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล สอบถามผู้ก่อเหตุที่ถูกทำร้ายว่ายิงปืนทำไม เจ้าตัวก็อ้างเป็นการ์ดอาชีวะ ตนยืนยันไม่ใช่การ์ดเพราะทีมงานไม่เคยพบ และหากเป็นการ์ดจริงต้องสวมปลอกแขน แต่ความจริงคนยิงไม่ได้สวม ไม่สวมเสื้อสถาบัน และพวกเราก็เก็บกระเป๋าคนยิงส่งตำรวจได้ ไม่พบปลอกแขนการ์ดอาชีวะ มีเพียงเอกสารประจำตัว บัตรประชาชนเท่านั้น หากไม่มีปลอกแขนเราจะมีสัญลักษณ์ที่รู้กันภายในโดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะเพื่อสร้างความกลมกลืนกับกลุ่มผู้ชุมนุม บางทีมอาจสวมริบบิ้น ริสต์แบนด์ หรือสร้อย เพื่อเป็นจุดสังเกต

Advertisement

นายเกวลังกล่าวต่อว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อประกาศยุติการชุมนุมประมาณ 30-40 นาที ก็มีคนเดินเข้ามาหาเรื่องกลุ่มคนเจ็บหน้าร้านแมคโดนัลด์ ก่อนมีการปะทะคารมกันก่อน แล้วชกต่อยกับการ์ดอาชีวะ จากนั้นมีคนร้ายขว้างระเบิดเข้ามา กลุ่มผู้ก่อเหตุก็วิ่งถอยออกมาเพื่อเปิดแนวยิง กลุ่มผู้ก่อเหตุอื่นๆ หนีได้หมด มีเพียงคนตัวอ้วนที่ยิงถูกรุมทำร้าย ส่วนเรื่องสื่อมวลชนที่โดนผลักอกนั้น ต้องขอโทษแทนกลุ่มการ์ดด้วย เพราะตนสั่งให้เปิดวงเพื่อนำคนเจ็บออกมา เป็นความผิดพลาดที่ดันสื่อออกไป อาจเกิดจากอารมณ์ที่ต้องการคุมมวลชนที่กำลังโมโห และคนที่ผลักอาจไม่เห็นบัตรสื่อเพราะพื้นที่เกิดเหตุค่อนข้างมืด จึงอาจเกิดจากความเข้าใจผิดกัน

นายเกวลังกล่าวอีกว่า กรณีตำรวจออกมาชี้แจงว่าเป็นการทะเลาะกันเองระหว่างนักเรียนอาชีวะนั้นมองว่าไม่ถูกต้อง ตำรวจควรสืบสวนให้ชัดเจนก่อนจะให้ข่าวกับสื่อ เรามีความชัดเจนว่าสถาบันไหนเข้ามาบ้าง ไม่เข้าใจว่าตำรวจรวบรวมข้อมูลได้ละเอียดแล้วหรือไม่ ทั้งนี้ หากเป็นนักเรียนอาชีวะจริงและมีเรื่องส่วนตัวกัน เมื่อพบกันในงานก็ต้องทะเลาะกันแล้ว แต่กลับเป็นการรอให้คนบางตาก่อนจะก่อเหตุ หากเป็นเรื่องส่วนตัวคงไม่มีการวางแผนเป็นขั้นตอนเช่นนี้

วันเดียวกันที่ จ.อุบลราชธานี พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.อุบลราชธานี ได้นำตัว นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ หัวหน้าการ์ดคณะราษฎรที่ถูกจับดำเนินคดี ม.116 ตามหมายจับของศาลจังหวัดอุบลราชธานี ยื่นคำร้องฝากขัง โดยตำรวจให้เหตุผลว่ายังสอบสวนไม่แล้วเสร็จ

ต่อมาศาลจังหวัดอุบลราชธานีสั่งยกคำร้องของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ขอฝากขังนายปิยรัฐ ในความผิดข้อหา ม.116 โดยศาลพิเคราะห์แล้วไม่มีเหตุจำเป็นในการขอฝากขัง จึงยกคำร้อง ทำให้นายปิยรัฐได้รับการปล่อยตัวโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ประกัน

ขณะที่ ศาลจังหวัดอุดรธานี มีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ “ครูใหญ่” แนวร่วมคณะราษฎร ผู้ต้องหาคดี “ยุยงประชาชนก่อความไม่สงบ” ตามหมายศาล จ.อุดรธานี ที่ถูกจับกุมจากกรุงเทพฯ นำตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองอุดรธานี โดยมีเงื่อนไขห้ามกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย หลังจากที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี นำตัวไปฝากขัง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image