‘จ่านิว’ลั่นประวัติศาสตร์จะบันทึกความขี้ขลาด จี้ฟังเสียงคนรุ่นใหม่’นาฬิกาไม่เดินถอยหลัง’ จับตา2ธ.ค.

‘จ่านิว’ลั่นปวศ.จะบันทึกความขี้ขลาด จี้ ฟังเสียงคนรุ่นใหม่ ‘นาฬิกาไม่มีเดินถอยหลัง’ ยันปชช.ทนสู้ แต่ไม่ทนนายกฯ ให้จับตา 2ธ.ค. ค้านสายตาหรือไม่

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การจัดกิจกรรม “เผด็จการจงพินาศ ก้าบ ก้าบจงเจริญ” โดย เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี นำโดย นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท ซึ่งได้พ่นสเปรย์ฝากข้อความถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี บริเวณป้ายของศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี มีใจความว่า “เป็นผู้ว่าอย่า 2 มาตรฐาน” จากนั้น มวลชนตั้งขบวนทัพเป็ดก่อนจะเคลื่อนพลไปยังแยกแคราย ในเวลา 17.15 น. โดยมีการตะโกน I here too เป็นระยะ นั้น

เวลา 21.10 น. นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว นักกิจกรรมทางการเมือง กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ตอนนี้มีคดีทั่วไปหมด ไกลที่สุดมีที่เชียงราย ขอบอกตำรวจตรงนี้ว่าไม่กลัว

“ในรอบหลายปี อะไรที่ไม่เคยเห็น จะได้เห็น คนอย่างประยุทธ์ตอนบริหารใหม่ๆ บอกบริหารบ้านเมืองง่ายนิดเดียว คือคำพูด ตอนปี 2557 มาปลายปี 2562 ถามว่า ทำไมประยุทธ์ใช้ มาตรา 112 ประยุทธ์บอก ผมไม่ได้ใช้ ผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นคนใช้ แต่ตอนทำรัฐประหาร จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ บอก ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว แต่ประยุทธ์โอนไปที่ข้าราชการท่านผู้น้อย เมื่อเจอเยาวชนประท้วง ตาขาวขึ้นมาทันที่ ที่ว่าบริหารง่ายนักหนา อยากทำให้ม็อบหยุด บอกได้คำเดียว่าไม่มีปัญญา เพราะคนรู้ว่าปัญหาของไทย มีตั้งแต่คุณคิดทำรัฐประหารแล้ว

น่าสนใจ ที่ประวัติศาสตร์จะบันทึกความขี้ขลาด ตาขาว แต่ก็หน้าด้านอยู่ ไปชั่วลูกชั่วหลาน เราไม่มีทางลืม วันนี้ประยุทธ์พูดไม่ออก ครม.ไม่ทีใครมีสง่าราศรี มีแต่เรื่องด่างพร้อย จะแก้เศรษฐกิจ แก้ไม่ได้ แก้ความสงบเรียบร้อย แก้ไม่ได้ ทำอย่างเดียว อยู่กินเงินเดือนจากภาษีประชาชนไปวันๆ เราจึงบอกว่า ง่ายนิดเดียว การฉกปัญหาขั้นแรก เมื่อหัวหน้ารัฐบาล ชี้ขาด โยนความผิดให้ลูกน้อง ก็ไสหัวออกไปเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรยาก ขอให้สงสารลูกหลานประยุทธ์ที่ต้อวมานั่งอ่านว่าคือลูกหลานคณะรัฐประหารที่ขี้ขลาดตาขาว ไม่มีน้ำยา ไม่มีสมองแก้ปัญหาให้กับประชาชนเท่าที่เคยมีมา คือจุดเริ่มต้นง่ายๆ ครั้นจะบอกให้แก้ปัญหานั้น ปัญหานี้ ก็แก้ไม่ได้ รัฐธรรมนูญก็ไม่อยากให้แก้ นี่ พ.ศ.ไหนแล้ว ที่ว่า ส.ว.จากคณะรัฐประหารจะเป็นอิสระ หนังน้ำเน่ายังน่าเชื่อกว่าอีก” นายสิรวิชญ์กล่าว
และว่า

Advertisement

กล้าพูดเลยว่า ม็อบเราไปที่ไหน ไม่มีคนจ้าง แต่ม็อบมินเนี่ยน ได้ข่าวว่าไปครั้งหนึ่ง 200-300 บาท บางจังหวัด หัว 200 บาท ยังมาแค่นี้อีกหรือ เราควักเงินมากกว่า 300 บาท เรายังมา ผมกล้าพูดอย่างหนึ่งว่า ความเชื่อมั่นต่อชนชั้นนำไทย เราชนะแล้ว เพราะชนชั้นนำไม่เหลือความชอบธรรมในสายตาประชาชนอีกต่อไปแล้ว ตลอดเวลา 6-7 ปีที่ผ่านมา เห็นผิดเป็นถูก เห็นถูกเป็นผิด ปากบอกจะมาปราบโกรง สรุปคือปราบเฉพาะฝ่ายตรงข้ามเท่านั้นหรือไม่ แล้วบอกจะแก้คอร์รัปชั่น พวกเดียวกันยังฟันไม่ลงคอ

“เราอยู่ในยุคดิจิทัล ไม่ใช่ดูทีวีแค่ 6 ช่อง หรือวิทยุกระจายเสียง ยุคนั้นผ่านไปแล้ว ข้อมูลเราอยู่ในมือแล้ว กดมือถือแป๊บเดียวเรารู้เกือบหมด ช่วยรู้เท่าทันโลกบ้างชนชั้นนำ ว่าใครทำระยำ ตำบอนอะไรกับบ้านเมืองไว้บ้าง เรากำลังต่อสู้กับกลุ่มคนหน้าด้าน ที่ไม่ระคายต่อเสียงก่นด่า อย่าฝืนอีกเลย วันนี้ประชาชนออกมาเป็นผู้เช็กลิสต์รายการความผิดปกติ ไม่ชอบมาพากล โดยเฉพาะลิ่วล้อที่มาแอบอิง กอบโกยผลประโยชน์ส่วนตน หันหูมาฟังว่าประชาชนต้องการอะไร”

“ต้องไม่ลืมว่าคนที่นิยมชมชอบเผด็จการกำลังเข้าสู่วัยเกษียณไปเรื่อยๆ และมีผู้ใหญ่หลายคนที่เชื่อมั่นในประชาธิปไตยที่เรากำลังเรียกร้องอยู่ นับวันคนที่เชื่อมั่นเผด็จการยิ่งน้อยลง ถ้าคนที่มีสามัญสำนึก จะต้องฟังเสียงคนรุ่นใหม่ที่ต้องเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่ ขออยู่แบบนี้ ขอย้อนยุค นาฬิกาไม่มีหมุนถอยหลังไปได้ มีแต่เดินหน้า ไม่ต้องพาย้อนหลังไปไหน เราต้องการหาอนาคต กับความหวัง เราไม่อยากให้ประเทศอยู่อย่างสิ้นความหวัง แต่มีคนบางกลุ่มที่กระเหี้ยนกระหือรือ หมุนนาฬิกาไปเรื่อยๆ วันนี้ ประชาชนจำนวนไม่น้อย ทั้ง เด็ก เยาวชน ช่วยดึงนาฬิกากลับมา เขาก็ดึงกลับไป วันนี้ไม่ชนะ แต่วันหนึ่งเข็มนาฬิกาจะเคลื่อนมาหาเรา

Advertisement

เหลือไม่กี่คนเท่านั้น นับนิ้วได้เลย เขาหมดแรงเชียร์แล้ว เราต้องการมีกระดูกสันหลัง ไม่ใช่สัตว์เลื้อยคลาน เราอยากยืนหลังตน ว่าเราคือประชาชน คือราษฎร ไม่ใช่แล้วแต่เวร แต่กรรม นี่คือยุคแห่งความต้องการของประชาชน ต่อให้วันนี้คิดจะใช้วิธีสกปรก รุนแรงขนาดไหน กลับยิ่งเร่งลมหายใจเฮือกสุดท้ายของชนชั้นนำ วัดดูเอาว่า เมื่อใช้ความรุนแรง ลมหายใจคุณจะอยู่ได้กี่ปี ภายในเวลาแค่ไม่กี่เดือน ความคิดประชาชนเปลี่ยน ความเชื่อเดิมกำลังถูกสั่นคลอน กลับใจเสียใหม่ ฟังเสียงประชาชนอย่างพวกเรา ไม่ใช่ยืนยัน จะใช้อำนาจดิบเถื่อนต่อไป ยุคสมัยนี้ใครใช้ความรุนแรงปราบปรามประชาชน อยู่ไม่ได้อย่างแน่นอน”

นายสิรวิชญ์กล่าวด้วยว่า สิ่งสุดท้ายสำหรับ ประยุทธ์ นั่งอยู่ในตึกไทยคู่ฟ้าอย่างไม่เป็นสงบแน่ๆ เพราะกำลังจะมีการตัดสิน ประยุทธ์เหมือนอยู่บนเขียง ว่า 2 ธันวาคมนี้จะเป็นอย่างไร

“… สิ่งที่ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำ ผิดตามรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรรมนูญ ท้ายที่สุดจะชี้ชัด วัดกันดู ใครๆ ก็ฟังธงว่าผิด อยากรู้เช่นกันว่าจะมีการเขียนคำวินิจฉัยประยุทธ์ อย่างไร 2 ธันวาคมนี้มารู้กัน ว่าสุดท้ายจะมีใครทำอะไรค้านสายตาประชาชนหรือไม่ หรือจะทำตามตัวบทกฎหมาย ความต้องการของประชาชน คุณเลือกได้ ทุกสายตาประชาชน จะจับจ้องวันที่ 2 ธันวาคม มองหาการตัดสินตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศนี้ ทุกกลไก จะสู้เพื่อรักษาสิทธิให้ประชาชน รักษาความถูกต้องให้ประชาชนเห็น หรือ รักษาสิทธิ ประยุทธ์ จันทร์โอชา

วันนี้ชาวนนทบุรีมาอย่างเหนียวแน่น เราต้องช่วยกัน นี่คือการวัดกัน รัฐบาลก็วัดว่า ม็อบจะอึดขนาดไหน เพราะความด้านที่มีอยู่อย่างไม่จำกัด เรามีแค่เพียงพลัง ที่ล้วงกระเป๋าก้าวออกมา เพื่อบอกว่า เราจะอดทนต่อการต่อสู้ แต่จะไม่ทนกับ ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายสิรวิชญ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image