อะไร-ทำไม-ยังไง คำถามที่รอคำตอบ เมื่อ ‘เจ๊หน่อย-โภคิน-วัฒนา-พงศกร’ ไขก๊อกสมาชิกพรรค พท.
วันที่ 1 ธันวาคม เมื่อพรรคเพื่อไทย (พท.) เกิดปรากฏการณ์เลือดไหลใหญ่ หลังแกนนำพรรคคนสำคัญหลายคนลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ทั้งคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายโภคิน พลกุล นายวัฒนา เมืองสุข และนายพงศกร อรรนพพร อดีตส.ส.ขอนแก่น จะมีคำชี้แจงเหตุผล เบื้องหน้า เบื้องหลังคืออะไร ทำไมถึงลาออก แล้ว พท.จะเป็นยังไงต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน รายงานแจ้งว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) นายโภคิน พลกุล นายวัฒนา เมืองสุข อดีตคณะกรรมการยุทธศาสตร์ และนายพงศกร อรรนพพร อดีตส.ส.ขอนแก่น พรรคพท. ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพท.โดยมีผลตั้งแต่ที่ 30 พฤศจิกายน
รอยร้าวนี้ ย้อนไปก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา คุณหญิงสุดารัตน์ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเนื้อหาระบุว่า “เรียนพี่น้องประชาชนที่เคารพ วันนี้ดิฉันได้ขอลาออกจากประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยแล้ว ต่อจากนี้ถึงแม้ดิฉันจะไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยแล้วก็ตาม แต่ดิฉันยังเป็นสมาชิกพรรคที่พร้อมจะยืนหยัด ต่อสู้เคียงข้างกับพี่น้องประชาชนในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และร่วมผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพี่น้องประชาชนให้สำเร็จ ตามแนวทางที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ได้เสนอไว้ทั้ง 5 ญัตติ”
“สุดท้าย ดิฉันขอกราบขอบพระคุณพี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่ได้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยในช่วงที่ดิฉันได้ทำหน้าที่ให้กับพรรคมาโดยตลอด จนทำให้พรรคชนะการเลือกตั้งเป็นลำดับ 1 ของประเทศได้จำนวน ส.ส. มากที่สุด”
หลังจากนั้น นายโภคิน พลกุล นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และนายวัฒนา เมืองสุข ก็ลาออกจากตำแหน่งกรรมการยุทธศาสตร์พรรคตามคุณหญิงสุดารัตน์
โดยนายวัฒนา เมืองสุข ซึ่งตอนนั้นเป็นประธานการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยประกาศลาออกจากตำแหน่ง อาจารย์โภคินและท่านพงศ์เทพประกาศลาออกตาม ผมได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย ซึ่งอยู่ภายใต้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคที่มีคุณหญิงเป็นประธาน จึงขอใช้โอกาสนี้ลาออกจากคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้วย แต่ยังเป็นสมาชิกของพรรคที่พร้อมจะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเหมือนเดิมครับ”
ส่วนส.ส.กรุงเทพฯในกลุ่มคุณหญิงสุดารัตน์ เช่น น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ที่นั่งเลขาธิการพรรค พท.ในขณะนั้น รวมทั้งนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่เป็นรองเลขาธิการพรรค ลาออกจากกรรมการบริหารพรรคด้วย
ต่อมาวันที่ 26 กันยายน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ขอลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค พท. ทำให้กรรมการบริหารพรรคต้องพ้นตำแหน่งไปด้วย จากนั้นมีการนัดประชุมใหญ่สมัยวิสามัญ เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม
กรรมการบริหารพรรคพท.ชุดใหม่ 24 คน โดยมีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นหัวพรรคเหมือนเดิม แต่มีการเปลี่ยนแปลงเก้าอี้สำคัญที่เคยเป็นของกลุ่มคุณหญิงสุดารัตน์ โดยน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ จากเลขาฯพรรค ไปเป็นรองหัวหน้าพรรค โดยมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา มานั่งเลขาฯพรรคแทน ส่วนนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ พ้นจากเก้าอี้รองเลขาฯพรรค
นอกจากนี้ยังเปลี่ยนโฆษกพรรคใหม่ จากนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ที่ไปเป็นรองหัวหน้าพรรค โดยมีน.ส.อรุณี กาสยานนท์ มาเป็นโฆษกพรรคแทน
นอกจากนี้ที่ประชุมใหญ่สมัยวิสามัญในวันดังกล่าว ยังมีมติรับรองการเปลี่ยนโลโก้พรรคใหม่ โดยเพิ่มหัว พ.พาน และ ท.ทหาร ให้มีลักษณะกลมเพื่อสื่อถึงความกลมเกลียว แต่มาถึงวันนี้โลโก้พรรคที่เปลี่ยนใหม่ไม่ขลังอย่างที่คิด ต้องจับตาดูต่อว่ารอยร้าวนี้จะลึกแค่ไหน จะมีแกนนำคนไหนลาออกตามอีก หรือส.ส.ของพรรคในกลุ่มของคุณหญิงสุดารัตน์จะมีท่าทีและจุดยืนอย่างไรกับพรรค รวมทั้งพรรค พท.จะดันใครขึ้นมาเป็นแม่ทัพนครบาลของพรรคแทน
ขณะที่ มีเสียงจาก ส.ส.ต่างพรรคอย่าง นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ที่อึ้งกับการที่คุรหญิงสุดารัตน์ นำทีมแกนนำพรรค พท. ลาออกจากสมาชิกพรรค พท.โดยโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “ผมรู้สึกตกใจเมื่อเห็นข่าวการลาออกของคุณหญิงสุดารัตน์ จากพรรคเพื่อไทย ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองเข้มข้น และเป็นแกนนำคนสำคัญของพรรค ที่มีบทบาทโดดเด่น แต่คงจะเป็นการตัดสินใจที่รอบคอบแล้ว ซึ่งขอเคารพในการตัดสินใจของท่าน ในฐานะเพื่อนนักการเมืองด้วยกัน และเพื่อนร่วมรุ่นมหานคร1 ขอเป็นกำลังใจในการทำงานการเมือง เพื่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป”
