ไทยติดโควิดใหม่ 13 ราย พบสาวเข้าไทยจากพม่า 6 ราย
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม เฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า
วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม 2563 เวลา 11.00 น. สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 มีผู้ป่วยรายใหม่ 13 ราย รวมสะสม 4,039 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,454 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 1,585 ราย รักษาหายป่วยแล้ว 3,832 ราย ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) 147 ราย เสียชีวิตสะสม 60 ราย ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ป่วยสะสม 4,039 ราย รับรักษาในกรุงเทพมหานคร (กทม.) และนนทบุรีจำนวน 2,198 ราย ภาคเหนือ 124 ราย ภาคกลาง 858 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 112 ราย ภาคใต้ 747 ราย
ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 6 ราย มาจากเมียนมา โดยทุกรายเดินทางเข้าประเทศไทยโดยเส้นทางธรรมชาติ
รายที่ 1 หญิงไทย อายุ 23 ปี อาชีพพนักงานสถานบันเทิง เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม วันที่ 5 ของการเดินทางเข้าประเทศไทย ผลตรวจพบเชื้อโดยไม่มีอาการเข้ารักษาที่ รพ.นครพิงค์
รายที่ 2 หญิงไทย อายุ 25 ปี อาชีพพนักงานสถานบันเทิง เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม วันที่ 5 ของการเดินทางเข้าประเทศไทย ผลตรวจพบเชื้อโดยไม่มีอาการเข้ารักษาที่ รพ.นครพิงค์
รายที่ 3 หญิงไทย อายุ 28 ปี อาชีพพนักงานสถานบันเทิง เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน วันที่ 3 ของการเดินทางเข้าประเทศไทย ผลตรวจพบเชื้อโดยไม่มีอาการเข้ารักษาที่ รพ.พะเยา
รายที่ 4 หญิงไทย อายุ 36 ปี เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม วันที่ 2 ของการเดินทางเข้าประเทศไทย ผลตรวจพบเชื้อโดยมีอาการไอ น้ำมูก เจ็บคอและปวดกล้ามเนื้อ เข้ารักษาที่ รพ.ราชบุรี
รายที่ 5 หญิงไทย อายุ 25 ปี เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม วันที่ 3 ของการเดินทางเข้าประเทศไทย ผลตรวจพบเชื้อ โดยไม่มีอาการเข้าพักในสถานกักกันโรคท้องถิ่น (Lacal Quarantine) จ.พิจิตร
รายที่ 6 หญิงไทย อายุ 21 ปี ว่างงาน เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน วันที่ 2 ของการเดินทางเข้าประเทศไทยผลตรวจพบเชื้อ โดยมีอาการไอ น้ำมูกไหล เจ็บคอ เข้ารักษาที่ รพ.เอกชน ใน กทม.
ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค (Quarantine) 7 ราย ได้แก่ 1.อินเดีย 1 ราย เพศชาย สัญชาติอินเดีย อายุ 35 ปี อาชีพนักปิโตรเคมี เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน เดินทางถึงไทยเข้าพักในสถานกักกันโรคทางเลือก (Alternatives State Quarantine) ใน กทม. เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน วันที่ 12 ของการกักตัว ผลตรวจพบเชื้อ โดยไม่มีอาการเข้ารักษาที่ รพ.เอกชน
2.สหรัฐอเมริกา 1 ราย หญิงไทย อายุ 31 ปี อาชีพพนักงานร้านอาหาร เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน เดินทางต่อเครื่องบินจากเกาหลีถึงไทย เที่ยวบินเดียวกันพบผู้ติดเชื้อ 2 ราย เข้าพักในสถานกักกันโรคของรัฐ (State Quarantine) ใน กทม. เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน วันที่ 11 ของการกักตัว ผลตรวจพบเชื้อ โดยไม่มีอาการ เข้ารักษาที่ รพ.ราชวิถี
3.เม็กซิโก 1 ราย หญิงไทย อายุ 46 ปี อาชีพช่างเย็บผ้า เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน เดินทางต่อเครื่องบินจากเนเธอร์แลนด์ถึงไทย เข้าพักในสถานกักกันโรคของรัฐ (SQ) ใน จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม วันที่ 3 ของการกักตัว ผลตรวจพบเชื้อ โดยไม่มีอาการเข้ารักษาที่ รพ.บ้านบึง
4.สวีเดน 1 ราย เพศหญิง สัญชาติอียิปต์ อายุ 32 ปี อาชีพแพทย์ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน เดินทางต่อเครื่องบินจากดูไบถึงไทย เข้าพักในสถานกักกันโรคของสถานพยาบาล (Alternatives Hospital Quarantine) ใน กทม. เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน วันที่ 1 ของการกักตัว ผลตรวจพบเชื้อ โดยไม่มีอาการเข้ารักษาที่ รพ.เอกชน
5.ปากีสถาน 1 ราย เพศชาย สัญชาติปากีสถาน อายุ 37 ปี อาชีพพนักงานบริษัท เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน เดินทางต่อเครื่องบินจากกาตาร์ถึงไทย เข้าพักให้สถานกักกันโรคทางเลือก (ASQ) ใน จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม วันที่ 5 ของการกักตัว ผลตรวจพบเชื้อ โดยไม่มีอาการเ ข้ารักษาที่ รพ.เอกชน
6.เนเธอร์แลนด์ 2 ราย หญิงไทยอายุ 42 และ 49 ปี เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน เดินทางถึงไทยโดย รายที่ 1 เข้าพักในสถานกักกันโรคทางเลือก (ASQ) ใน กทม. และรายที่ 2 เข้าพักสถานกักกันโรคของรัฐ (SQ) ใน จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม วันที่ 3 ของการกักตัว ผลตรวจพบเชื้อ โดยไม่มีอาการ รายที่ 1 เข้ารักษาที่ รพ.เลิดสินและอีกรายที่ รพ.บางละมุง
ทั้งนี้ สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลก ผู้ติดเชื้อเพิ่มใหม่ 634,524 ราย ยอดผู้ติดเชื้อรวม 64,834,951 ราย อาการรุนแรง 106,472 ราย รักษาหายแล้ว 44,934,851 ราย เสียชีวิต 1,499,175 ราย อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่
1.สหรัฐอเมริกา จำนวน 14,313,941 ราย เป็นรายใหม่ 203,427 ราย 2.อินเดีย จำนวน 9,533,471 ราย เป็นรายใหม่ 33,761 ราย 3.บราซิล จำนวน 6,436,650 ราย รายใหม่ 48,124 ราย 4.รัสเซีย จำนวน 2,347,401 ราย เป็นรายใหม่ 25,345 ราย 5.ฝรั่งเศส จำนวน 2,244,635 ราย เป็นรายใหม่ 14,064 ราย ประเทศไทยอยู่อันดับ 151 ของโลก ส่วนเมียนมามีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 851 ราย ยอดสะสมรวม 93,600 ราย
