นิธิ มองหลังคำพิพากษา ยังไร้ทางออก ชี้ ถ้าไม่พื้นที่ปลอดภัย คุย 3ข้อ เสี่ยงนองเลือด

นิธิ มองการเมืองหลังคำพิพากษา ยังไร้ทางออก ถ้ายังไม่มีพื้นที่ปลอดภัย คุย 3 ข้อเรียกร้อง สุ่มเสี่ยงเหตุนองเลือด  

วันนี้ (4 ธ.ค.) ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ คอลัมนิสต์ชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับรายการ The Politics ข่าวบ้านการเมือง ถึงสถานการณ์การเมืองไทย หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ คดีอยู่บ้านหลวงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ยังไร้ทางออก สุ่มเสี่ยงที่จะมีเหตุนองเลือด หากยังไม่เปิดพื้นที่ปลอดภัยเพื่อพูดคุยใน 3 ข้อเรียกร้องของ แนวร่วมราษฎร

“แม้การตัดสินครั้งนี้จะไม่น่าสนใจเท่าไหร่ เพราะแม้แต่กลุ่มผู้ประท้วงก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่า คำตัดสินจะต้องออกมาในรูปนี้ แต่สิ่งที่เราไม่รู้ก็คือ เหตุผลที่ศาลรัฐธรรมนูญจะใช้ในการตัดสินเพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อ เพราะท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ จำเป็นอย่างมากที่ต้องคิดหาเหตุผลที่ไม่ต้องถึงขนาดฟังขึ้นก็ได้ แต่ต้องไม่น่าเกลียดเกินไป ไม่ใช่การนำระเบียบของหน่วยงานของรัฐระดับกรม ขึ้นมาอยู่เหนือรัฐธรรมนูญแบบนี้ นี่จึงเป็นเรื่องเกินไป ทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัดมากขึ้นในหมู่ประชาชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะผู้ประท้วงในเวลานี้”

“ผมคิดว่า สิ่งหนึ่งที่สื่อมักจะไม่เข้าใจ หรือแกล้งไม่เข้าใจเสมอว่า 3 ข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ประท้วงมันคืออันหนึ่งอันเดียวกัน แยกออกจากกันไม่ได้ เป็นต้นว่า จะขอให้พล.อ.ประยุทธ์ออกไป ซึ่งคุณคิดว่า วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ได้ เพราะตัวพล.อ.ประยุทธ์หรือ คุณก็รู้อยู่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ได้ เพราะอะไร ด้วยเหตุดังนั้น 3 เรื่องนี้ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เอาพล.อ.ประยุทธ์ออก แล้วจะจบอยู่แค่นี้หรือ ผมว่า ไม่ใช่นะ ยิ่งเอาพล.อ.ประยุทธ์ ออกไป แล้วเอาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาแทนแล้ว เรื่องมันจะสงบงั้นหรือ?”

“ทางออกในสภา หลังจากไม่รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของไอลอว์ ผมเข้าใจว่า หมดแล้ว ทุกคนก็รู้ว่า ในสภาฯไม่ได้แก้ปัญหาอะไรได้ ตราบเท่าที่ยังมี 250 เสียงส.ว.อยู่ ความต้องการหรือเสียงเรียกร้องของประชาชน มันจะไม่ได้ถูกพิจารณาอย่างจริงจัง เพราะจะมีเสียง 250 ส.ว.ที่คอยถ่วงอยู่ตลอดเวลา แม้แต่คณะกรรมการปรองดองก็ไม่มีความหมาย เพราะคณะกรรมการชุดนี้จะสามารถเซย์เยส เซย์โน ได้ทุกเรื่องหรือไม่ ผมคิดว่า ไม่ใช่ ดังนั้น เรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับว่า ผู้มีอำนาจทั้งหลาย จะตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของผู้ประท้วงอย่างไรต่างหาก ถ้าได้ไม่ครบ 3 ก็ไม่มีทางออก เพราะทั้ง 3 ข้อ เป็นสิ่งที่เกี่ยวเนื่องกัน แยกออกจากกันไม่ได้ ว่า จะทำหรือไม่ทำข้อไหน”

Advertisement

“ผมคิดวันนี้เราจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเปิดพื้นที่ที่มันปลอดภัยจริงๆสำหรับพูดคุยใน 3 ข้อเรียกร้องที่จะทำให้มีการพูดจาแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้ โดยไม่มีภัยอันตรายอะไรทั้งสิ้น ไม่ว่า จะทางกฏหมายหรืออะไรก็แล้วแต่ ผมถึงรู้สึกขอบคุณ คุณบรรยง พงษ์พานิช ที่พูดสิ่งเหล่านี้ออกมาตรงๆ จะเห็นด้วยหรือไม่ แต่ต้องเปิดพื้นที่ปลอดภัยขึ้นมา”

ถามว่า ถ้าพื้นที่ปลอดภัยไม่ได้ถูกสร้างขึ้น 2 ฝ่าย อาจเกิดปะทะเกิดขึ้น ? ศ.นิธิ ชี้เลยว่า เกิดแน่ 

“ผมเชื่อว่า เกิด แต่เหตุผลที่เกิดไม่ได้เกิดขึ้นจากฝ่ายผู้ชุมนุม แต่มาจากฝ่ายผู้มีอำนาจเอง ถ้าย้อนกลับไปดู ในระยะประมาณเกือบๆ 100 ปีที่ผ่านมา จะพบว่า ผู้มีอำนาจไม่เคยเปิดพื้นที่ปลอดภัยในการแลกเปลี่ยนพูดคุยกันครั้งเดียว แล้วในที่สุดก็จะใช้กำลังทุกที ถามว่า จนถึงนาทีนี้เห็นวี่แววบ้างไหมว่า ผู้มีอำนาจทั้งหลายจะเรียนรู้บทเรียนที่ผ่านมา และพยายามที่จะหลีกเลี่ยงความรุนแรง ผมคิดว่า ไม่พบ ตอนนี้ยังพยายามใช้ความรุนแรงในรูปแบบ เป็นต้นว่า จับคนขึ้นศาล สร้างคดีต่างๆ ขณะเดียวกันก็เริ่มมีความรุนแรงนอกแบบ ในการสร้างม็อบมาชนกันด้วย ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้ต่อไป เกิดการนองเลือดแน่นอน อย่างเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ไม่รู้กี่ 10 ครั้งในประเทศไทย”

Advertisement

“ถามว่า ทางหลีกเลี่ยงมีไหม คนก็เคยหวังกันอยู่เยอะว่า ชนชั้นนำในไทย จะยอมให้มีพื้นที่ปลอดภัย แล้วหันไปใช้วิธีอื่น ในระบอบประชาธิปไตยอย่าไปนึกว่า ประชาชนมีอำนาจเท่าเทียมกันหมด ไม่มีที่ไหนหรอก ไม่จริงหรอก เป็นแต่เพียงว่า ผู้มีอำนาจแทนที่จะใช้ความรุนแรง ก็เลี่ยงไปใช้วิธีอื่นแทน เพราะยังไงๆ กลุ่มที่ได้เปรียบในสังคมก็จะสามารถรักษาความได้เปรียบของตนเองได้ต่อไปในระบอบประชาธิปไตย เป็นแต่เพียงจะไม่โจ่งแจ้งน่าเกลียด อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเท่านั้นเอง”

เมื่อถามถึง การเลือกตั้งอบจ.ทั่วประเทศ ? 

“การเลือกตั้งนี้จะมีผลต่อเมื่อบ้านใหญ่ทั้งหลายไม่ได้รับเลือก ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนในระดับต่างๆตื่นตัวในการหาทางเลือกให้ชีวิตตัวเอง ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่า จะเกิดขึ้นอย่างนั้นได้จริง เพราะว่า บ้านใหญ่ในเวลานี้ก็มักจะสัมพันธ์กับรัฐ ไม่ว่าจะทางใดก็ทางหนึ่ง บ้านใหญ่ก็มีข้อได้เปรียบเยอะ แต่ถ้าคณะก้าวหน้าประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งอบจ.อย่างที่อนาคตใหม่เคยทำได้ ผมคิดว่านั่น จะเป็นสัญญาณอย่างชัดเจน และน่ากลัวมากขึ้นว่า ผู้นำของคณะก้าวหน้าอาจจะติดคุกหมด”

“ชนชั้นนำไทย ไม่มีวิธีจัดการกับความเปลี่ยนแปลงในทางที่สงบ เขาไม่มีประสบการณ์แบบนี้เลย นอกจากใช้อำนาจในชนิดที่ไม่ชอบธรรม ท่ามกลางสายตาคนจำนวนไม่น้อยด้วย”

ส่วนภาพ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถูกขับไล่หนักแผ่นดิน ระหว่างการช่วยหาเสียงนั้น ศ.นิธิ ยังเชื่อว่า “ส่วนใหญ่ของขบวนการเหล่านี้ เป็นขบวนการที่มาจากบ้านใหญ่ เพราะอนาคตใหม่เคยประสบความสำเร็จแบบคาดไม่ถึงมาแล้ว ฉะนั้น ครั้งนี้เขาก็กลัวเหมือนกัน เพราะสังคมเปลี่ยนไปเยอะ แต่ก่อนพูดถึงคนบ้านนอกแบบเขาไม่รู้อะไร แต่ตอนนี้คนต่างจังหวัดทั้งหมด กับคนกทม.แทบไม่ต่างกัน นอกจากการบริการของรัฐที่ไม่เท่ากันเท่านั้นเอง เช่น ความรู้ การดำเนินชีวิต แทบไม่ต่างจากคนกทม.แล้ว”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image