“วิษณุ” ยันปมบ้านหลวงจบสนิท ยก “ป๋าเปรม” ก็อยู่บ้านสี่เสา
กรณีพรรคเพื่อไทยยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้วินิจฉัยกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พักอาศัยในบ้านพักข้าราชการกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ขัดรัฐธรรมนูญ และมีผลให้ต้องพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยไปเรียบร้อยว่า ไม่เป็นการขัดรัฐธรรมนูญและไม่ขัดจริยธรรมในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขณะที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ยกแง่มุมทางกฎหมายยื่นร้องต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบ
ทำให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มือกฎหมายของรัฐบาลต้องออกมาชี้แจงอีกครั้ง เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ว่า เรื่องนี้เมื่อมีคำวินิจฉัยออกมาถือว่าจบแล้ว แต่ใครจะร้องก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ส่วนที่ร้องไปยังกมธ. แล้วจะรับเรื่องหรือไม่ ต้องไปถามกมธ. แต่เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วมีผลผูกมัดทุกองค์กร ต้องตอบว่าจบ
“เราเป็นผู้ต้องหา เป็นจำเลย จะบอกว่ายกฟ้องแล้วไม่จบ ก็คงเป็นจำเลยที่แปลก ถ้าโจทก์ร้องว่า ผิด แต่ศาลบอกยกฟ้อง ไม่ผิด โจทก์บอกไม่จบก็อุทธรณ์ฎีกาได้ แต่บังเอิญว่าคดีนี้ไม่มีอุทธรณ์ ฎีกา”นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุอธิบายเพิ่มเติมว่า หากไปอ่านคำวินิจฉัยฉบับเต็มของศาลรัฐธรรมนูญจะพบว่าเรื่องนี้คำตอบชัดเจน เพราะเริ่มต้นร้องว่าผิดรัฐธรรมนูญตามมาตรา 184 (3) ที่ระบุว่าไม่ให้รับเงินหรือสิทธิใดๆ จากหน่วยงานของรัฐเป็นกรณีพิเศษ เว้นแต่จะเป็นการรับซึ่งหน่วยงานนั้น ได้ปฏิบัติต่อบุคคลทั่วไปในธุรกิจการงานปกติ ดังนั้นถ้าเริ่มต้นด้วยการรับอะไรที่ไม่พิเศษก็รับได้ และที่รับได้ และเมื่อมีการออกระเบียบให้สามารถทำได้จึงไม่ใช่กรณีพิเศษ เช่น ทำไมนายกฯไปอยู่บ้านพิษณุโลกได้ ก็ถือเป็นการรับสิทธิประโยชน์จากส่วนราชการไม่ใช่หรือ คำตอบก็คือใช่ไม่กรณีพิเศษ ใครที่เป็นนายกฯ ก็อยู่ได้ทุกคน การเข้าอยู่บ้านพักหลวงของพล.อ.ประยุทธ์ก็เป็นเช่นเดียวกัน
“แต่หากอ้างว่าเป็นนายกฯ อยู่บ้านพิษณุโลกได้ แต่อยู่บ้านพักทหารไม่ได้ เพราะนายกฯ คนอื่นไม่มีสิทธิอยู่บ้านพักทหาร แต่ระเบียบทบ.ให้สิทธิอดีตผบ.ทบ. ที่ทำคุณประโยชน์ได้พักอาศัย ก็เหมือนกับการที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี เป็นอดีตผบ.ทบ. อยู่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ได้ และอดีต ผบ.ทบ.หลายคนอยู่บ้านพักเกษะโกมลได้”นายวิษณุกล่าว
