‘ยุทธพงศ์’ บี้ปมสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ชี้ไม่มีความจำเป็นต้องเร่งต่อ

‘ยุทธพงศ์’ บี้ปมสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ชี้ไม่มีความจำเป็นต้องเร่งต่อ

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่า การต่อสัมปทานเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเดิม ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าทำไมนายกฯจึงต้องดึงดันเอาเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลายครั้ง ทั้งที่เรื่องทำให้เสียรัฐมนตรีคลังไปถึง 2 คนแล้ว เพราะหนี พ.ร.บ.ร่วมทุน ตนในฐานะที่เป็นเจ้าของญัตติที่เสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภา ทั้งนี้ ตนคิดว่าเรื่องที่สำคัญที่สุดคือเรื่องค่าโดยสารที่มีผลต่อค่าครองชีพของประชาชน ค่าโดยสารต้องเป็นธรรม ที่บอกว่า หากให้ต่อสัญญาไป 40 ปีจะคิดค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย ซึ่งถือว่าแพงมาก ซึ่งในที่ประชุมกมธ.มีการสอบถามว่าเหตุใดต้องตั้งราคา 65 บาทตลอดสาย ไม่ 50 บาท เขาบอกว่า เป็นราคาที่คนกรุงเทพฯรับได้ แต่ถ้าเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำ และค่าครองชีพ ไปกลับก็ 130 บาท เหลือเงินเท่าไหร่ ไหนจะค่าอาหาร ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ตนว่าราคาแพงเกินจริง ตนจึงคัดค้าน ทั้งที่วันนี้รัฐบาลมีหน่วยงาน รฟม. จึงไม่ควรเอามาแบ่งว่าช่วงไหนเป็นของมหาดไทย ของอะไร แต่ควรจะเป็นของหน่วยงานเดียวไปเลย เช่น ให้ รฟม.ลงทุน ก็ให้เขาดำเนินการไปเลย เพื่อที่คนจะได้เข้ามาประมูลแข่งขันได้ เพราะค่ารถไฟฟ้ายิ่งได้ถูกเท่าไหร่ ยิ่งเป็นผลดีต่อประชาชน คุณเป็นบริการสาธารณะของรัฐจะเอากำไรกับประชาชนหรืออย่างไร

นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนอะไรที่ต้องเร่งต่อสัมปทานเพื่อขยายเวลาออกไป ส่วนต่อขยายที่มีการจ้างรถวิ่งแต่ไม่มีเงินจ่ายนั้น ตนขอถามว่าแล้วค่ารถที่คุณเก็บไป คุณเอาไปไว้ไหน วันนี้คุณทดลองวิ่งจึงนั่งฟรีเพราะยังไม่เปิด แต่ถ้าวันใดเปิดบริการเต็มรูปแบบแล้วก็จะมีรายได้เข้ามา ทั้งนี้ วันนี้ บีทีเอส ได้ประโยชน์ เพราะกทม.เป็นผู้จ้างคุณวิ่งรถ กำไร ขาดทุนไม่ต้องไปคิดเพราะเป็นเรื่องของกทม. และเรื่องนี้เองที่กทม. ไปจ้างบีทีเอสวิ่งรถก็ส่อว่าจะไม่โปร่งใสด้วย เพราะเป็นการจ้างวิ่งรถโดยไม่มีการเปิดประมูล ซึ่งอาจผิดข้อบัญญัติของ กทม. ว่าด้วยเรื่องการพัสดุปี 2538 ข้อ 22 เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ และยังไม่ได้เข้าพ.ร.บ.ร่วมทุนเพื่อตีมูลค่าว่ารัฐและเอกชนจะต้องได้รายได้เท่าใดด้วย โดยประเด็นนี้จะต้องมีการตรวจสอบต่อไป อย่างไรก็ตาม ตนต้องถามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ว่าท่านรีบไปไหน และตนจะต้องขอเปิดอภิปรายเรื่องนี้สภาต่อไปด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image