‘รุ้ง’ เปิดที่มา ม.112 – รายชื่อผู้ต้องโทษ เผยล่าสุด ไม่ถึงเดือนโดนอีกกว่า 20 คน
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ที่ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพฯ สืบเนื่องในวันรัฐธรรมนูญ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” ร่วมกับ “ม็อบเฟสต์” (Mob Fest) จัดกิจกรรม “ยกเลิก 112 สิ แล้วเราจะเล่าให้ฟัง” โดยมีกิจกรรม อาทิ วงเสวนาวิชาการ นิทรรศการ ม.112 สลับดนตรี และการแสดงงานศิลปะ
เวลา 18.26 น. น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำราษฎร กล่าวปาฐกถา เนื้อหาพูดถึงกฎหมายหมิ่นสถาบันตั้งแต่อดีต และบทลงโทษ
น.ส.ปนัสยากล่าวว่า จะเห็นว่าการกระทำ กับการลงโทษ ต่างกันมาก จนกระทั่งถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 เป็นระบอบประชาธิปไตย ที่ยืนยันว่าอำนาจสูงสุดในรัฐ คือประชาชน สถาบันเปลี่ยนมาอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่กฎหมายเช่นนี้ยังคงดำรงอยู่ และใช้มาถึงปัจจุบัน ซึ่งรัฐธรรมนูญ 2475 ยังระบุบทบัญญัติเอาไว้ อันส่งผลต่อการขยายขอบเขตการตีความ ความผิดฐานหมิ่นประมาทในเวลาต่อมา
ซึ่งปี พ.ศ.2499 คือจุดเริ่มต้นของ ม.112
ต่อมา ฝ่ายอนุรักษนิยมพยายามฟื้นฟูอำนาจในระบอบเก่า ขณะที่คณะราษฎรเสื่อมอำนาจลง มีการตรากฎหมายหมิ่นฯ แทนกฎหมายเดิม พร้อมแก้เนื้อหา จำโทษไม่เกิน 7 ปี และอยู่ในหมวดความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร โดยสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ถูกโยงไปถึงเรื่องคอมมิวนิสต์
ในช่วงเหตุการณ์เดือนตุลาคม 2519 มีความกลัวการคุกคามสถาบัน นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตัวบทของ ม.112
น.ส.ปนัสยาได้อ่านรายชื่อ ผู้ต้องโทษ คดีอาญามาตรา 112 จำนวน 9 ราย และว่า ช่วงนี้มีอีกกว่า 20 คน ที่โดน ม.112 ในเวลาไม่ถึงเดือน
“มาตรา 112 ไม่ควรมีอยู่ ควรใช้กฎหมายเดียวกันเพื่อบรรทัดฐานที่เท่าเทียม และไม่ควรมีใครที่ต้องเจอสิ่งเหล่านี้แม้แต่คนเดียว โลกมนุษย์ย่อมดีกว่านี้ เมื่อประชาชนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียม” น.ส.ปนัสยากล่าว
ต่อมา เวลา 18.44 น. นายสิรภพ อัตโตหิ หรือ แร็พเตอร์ แกนนำกลุ่มเสรีเทยพลัส กล่าวว่า วันนี้ที่เรากำลังรณรงค์ ยกเลิก ม.112 คืออีกก้าวหนึ่ง ที่เราจะก้าวไปด้วยกัน เพื่อสร้างสังคมไทยที่มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกัน
“แม้ว่ากิจกรรมวันนี้จะจบสิ้น แต่เป็นเพียงหมุดหมายหนึ่งเท่านั้น เป็นอีกหนึ่งวันในการต่อสู้ ขอให้ทุกคนกลับไปพร้อมใบปลิว พร้อมอุดมการณ์ และเป้าหมายร่วมกันที่จะสร้างสังคมที่เท่าเทียม เอาน้ำเสียง ความเจ็บปวดของเพื่อนไปพูด ไปเผยแพร่ กระจายต่อ แล้ววันหนี่งเราจะชนะร่วมกัน เราจะทำให้คนไทยทุกคนตาสว่าง เห็นพร้อมเพรียงกันว่าคนทุกคนเกิดมาเท่าเทียม เป็นมนุษย์เหมือนกัน” นายสิรภพกล่าว
จากนั้น มวลชนชู 3 นิ้ว ตะโกนคำขวัญก่อนจะยุติกิจกรรมในเวลา 18.46 น.
