เมื่อเวลา 18.00น. วันที่ 12 ธันวาคม 2563 ที่ลานจตุรัสนครหาดใหญ่ จ.สงขลา นายไพเจน มากสุวรรณ์ ผู้สมัคร นายก อบจ.สงขลา ทีมประชาธิปัตย์ เปิดปราศรัยใหญ่ โดยช่วงแรกก่อนเปิดเวที นายไพเจนนำทีมผู้สมัคร สมาชิกสภา อบจ.สงขลา ขึ้นเวทีแถลงข่าวกรณี คู่แข่ง คือ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ผู้สมัคร นายก อบจ.สงขลา หมายเลข 2 เข้าร้องเรียนต่อ กกต.สงขลา กล่าวหาว่าตนมอบเสื้อยืดคอปกให้อสม.หลังกกต.ประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้ง ส.อบจ.และนายก อบจ.เมื่อ 26 ตุลาคม 2563 โดยเป็นเสื้อที่มีรูป ชื่อและสโลแกนของทีมนั้น เป็นการร้องรียนดังกล่าวเป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อน ไม่ตรงต่อความเป็นจริง ขอชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและผู้เกี่ยวข้องให้เกิดความมั่นใจว่าการกระทำดังกล่าวไม่เป็นความผิดต่อกฎหมาย
โดยช่วงต้นเดือนกันยายน 2563 นางพจนีย์ สุวรรณเวหา ประธาน อสม.จังหวัดสงขลา มาขอความอนุเคราะห์เสื้อยืดคอปกเพื่อให้สมาชิก อสม.สงขลาทั้งหมดสวมใส่ในการเข้าร่วมประชุมอบรมเพื่อสรุปผลการปฏิบัติงานการแก้ปัญหาและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด 19 ในช่วงวันที่ 7- 24 ตุลาคม 2563 จึงรวบรวมผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันสมทบทุนจัดซื้อเพื่อมอบให้ อสม.ตามที่ขอความอนุเคราะห์มา ส่วนเรื่องรูปแบบเสื้อสีและการออกแบบ ฝ่ายประธาน อสม.สงขลาเป็นผู้รับผิดชอบเองทั้งสิ้น จึงว่าจ้างบริษัทเอกชนเป็นผู้ผลิตเสื้อและส่งมอบให้ประธาน อสม.ทั้ง 16 อำเภอแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2563 หลังจากได้รับเสื้อ สมาชิก อสม.ได้ใช้สวมใส่เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียงในวันที่ 7-24 ตุลาคม ดังนั้นจากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานจึงชัดเจนว่าการมอบเสื้อยืดดังกล่าวส่งมอบก่อนการประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกอบจ.และนายกอบจ.สงขลา จึงไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พศ. 2562 โดยกรณีลักษณะเช่นนี้ กกต.เคยมีคำวินิจฉัยที่ 44/2562 ไว้เป็นบรรทัดฐานว่า “เหตุเกิดขึ้นก่อนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพ. ศ. 2561 มีผลใช้บังคับข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่าเป็นว่าผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด “
“การที่ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล กล่าวหาว่าผมกระทำความผิดต่อกฎหมาย เป็นการกระทำโดยมีเจตนาเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่า เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งหรือเพื่อแกล้งให้ผมถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง หรือสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง หรือไม่ให้มีการประกาศเลือกตั้งส่งผลให้ผมได้รับความเสียหายการกระทำดังกล่าว จึงเป็นการร้องเท็จและ พ.อ.สุชาติ อาจมีความผิดตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ. ศ. 2562 มาตรา 118 ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดตั้งแต่ 7 ปีถึง 10 ปีหรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนสี่หมื่นบาทถึงสองแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งผมจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ยืนยันว่าการมอบเสื้อยืดคอปกให้แก่ อสม.เป็นการให้กำลังใจแก่ อสม.ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อประชาชนชาวสงขลาจึงไม่เป็นความผิด ต่อกฎหมายแต่อย่างใด”
นายไพเจน กล่าวอีกว่า การร้องเรียนดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการหาเสียง หรือ การตัดสินใจของประชาชนแต่อย่างใด เชื่อว่ายุคนี้แล้วไม่มีการใช้วิธีการซื้อเสียง แต่เชื่อว่าประชาชน จะตัดสินใจเลือกจากนโยบายมากกว่า ซึ่งนโยบายของตนได้รับการตอบรับอย่างดีจากพี่น้องประชาชน ยิ่งเข้าสู่โค้งสุดท้าย ประชาชนมีกระแสตอบรับดีมาก เชื่อมั่นว่าจะได้รับการเลือกตั้งเข้ามาทำหน้าที่ใน อบจ.สงขลาอย่างแน่นอน