‘โจ้’ ชวนจับตา ‘ประยุทธ์’ เปิดหวูด รฟฟ.สายสีเขียว-สีทอง ลั่น ถ้าไม่ฟังเสียงค้านจ่อเอาไปอภิปรายไม่ไว้วางใจ

‘โจ้’ ชวนจับตา ‘ประยุทธ์’ เปิดหวูด รถไฟฟ้าสายสีเขียว-สีทอง พร้อมจี้ตอบคำถาม 6 ข้อ ลั่น ถ้าไม่ฟังเสียงค้านเตรียมเอาไปอภิปรายไม่ไว้วางใจ

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.จังหวัดมหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะทำงานเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจฯรัฐบาล พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เตรียมที่จะไปเป็นประธานฯเปิดการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว-สีทอง เที่ยวปฐมฤกษ์ ในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ โดยจะเปิดรถไฟฟ้าสายสีทองที่เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียวไปยังสถานีคลองสาน ทำให้ประชาชนสามารถเชื่อมการเดินทางของของประชาชน 3 จังหวัด คือ ปทุมธานี กรุงเทพฯ และสมุทรปราการ ว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เชื่อมต่อ 3 จังหวัดเป็น โครงการที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลพรรค พท. ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ที่อนุมัติให้ รฟม. ก่อสร้างส่วนต่อขยายเขียวเหนือ (เชื่อม กรุงเทพฯ-ปทุมธานี) และส่วนต่อขยายเขียวใต้ (เชื่อม กรุงเทพฯ-สมุทรปราการ) โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นโครงการที่ดี และเป็นประโยชน์กับประชาชน ในพี้นที่ 3 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ ปทุมธานี และสมุทรปราการ แต่จะต้องไม่ใช่การสร้างภาพเพื่อเป็นการเอื้อประโยชน์ให้มีการต่อขยายสัมปทานการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้กับเอกชนรายเดิมออกไปอีก 40 ปี โดยไม่เปิดให้มีการประมูลแข่งขันอย่างเป็นธรรม

“ผมขอยํ้าอีกครั้งหนึ่งว่า กรุงเทพมหานครได้เตรียมการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว สำหรับการเปิดการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวครบตลอดเส้นทาง ผ่าน 3 จังหวัด โดยแม้ในขณะนี้ยังไม่ได้ต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปอีก 40 ปี รถไฟฟ้าก็สามารถวิ่งผ่าน 3 จังหวัดได้ แต่ที่น่าจับตามองมากคือ พล.อ.ประยุทธ์ ชอบจะมาเป็นประธานฯเปิดการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย มาไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งแล้ว ภายในปีนี้ ทั้งๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์มีภารกิจสำคัญในช่วงนี้ที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก ควรจะไปเยี่ยมประชาชน แต่กลับไม่ไป เช่น ควรไปตรวจเยี่ยมการระบาดของโรคโควิดระลอกใหม่ ที่กระทบการท่องเที่ยวอย่างหนักในทางภาคเหนือ คือที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ รวมไปถึงควรจะได้ไปเยี่ยมคนภาคใต้ เพื่อให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูหลังนํ้าท่วมใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์ กลับไม่สนใจที่จะไปเยี่ยมคนจนในต่างจังหวัด ทั้งภาคเหนือ และภาคใต้ แต่กลับใช้เวลามาเปิดรถไฟฟ้าให้เจ้าสัวในกรุงเทพฯ” นายยุทธพงศ์กล่าว

นายยุทธพงศ์กล่าวอีกว่า การที่จะให้ต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปอีก 40 ปี จะต้องตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้คือ 1.ทำไมจะต้องใช้คำสั่งมาตรา 44 มาเอื้อประโยชน์ในการต่อสัปทานให้กับเอกชนรายเดียว 2.มติของสภาผู้แทนราษฎรที่ไม่ให้ต่อขยายสัมปทานจนกว่าสัมปทานจะหมด และเปิดให้มีการประมูลแข่งขันอย่างเป็นธรรม ทำไม พล.ประยุทธ์ไม่เคารพมติของสภาฯ 3.ทำไมไม่ให้บริษัท BTS เข้า พ.ร.บ.ร่วมทุนระหว่างรัฐกับเอกชน ปี 2562 และรัฐบาลมายกเว้น พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ให้บริษัทบีทีเอสทำไม 4.ค่าโดยสารที่แพงถึง 65 บาท ซึ่งคนกรุงเทพฯที่มีรายได้ขั้นตํ่าวันละ 331 บาท นั่งรถไฟฟ้าไป-กลับ วันละ 130 ค่าโดยสารสูงกว่าค่าครองชีพมาก

Advertisement

นายยุทธพงศ์กล่าวว่า 5.ในเมื่อเหลืออายุสัมปทานอีก 10 ปี ทำไมมาเร่งรีบ รีบเร่งใช้มาตรา 44 ต่อขยายสัมปทาน ทำไมไม่ใช้กฎหมายปกติดำเนินการ 6.กระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นกระทรวงหลักในการบริหารจัดการด้านการคมนาคมขนส่ง ออกมาคัดค้านเรื่องค่าโดยสาร ทำไมไม่ฟัง

“ทั้งนี้ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ยังดึงดันที่จะต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปอีก 40 ปี โดยไม่ฟังเสียงคัดค้าน และแม้แต่กระทรวงคมนาคม ก็ยังออกมาคัดค้าน ตนเตรียมเสนอเรื่องให้พรรค พท.เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ในเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวได้เลย เพราะมีข้อมูลพร้อมอยู่แล้ว และเชื่อว่ารัฐบาลจะควํ่าเอา เพราะพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคภูมิใจไทยคงลำบากใจในการยกมือให้รัฐบาลอย่างแน่นอน” นายยุทธพงศ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image