09.00 INDEX มอง กระบวนการ สมานฉันท์ ถามตรง ไปยัง ประชาธิปัตย์
คำขอโทษของรัฐบาลมาพร้อมกับความพยายามปรับความเข้าใจต่อ รายละเอียดภายในองค์ประกอบแห่งคณะกรรมการ “สมานฉันท์” คือใบเสร็จอันเด่นชัดว่ารัฐบาลคิดอะไรอยู่ในเรื่องของ “สมานฉันท์”
ท่าทีนี้ย่อมแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับท่าทีของรัฐบาลก่อนการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562
แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะ นายกรัฐมนตรีเคยมอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นเจ้าภาพในการจัดปรองดองสมานฉันท์
ตั้งแต่ครั้งที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่งเป็นทั้งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
อาจเป็นเพราะทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประเมินว่าการปรองดองสมานฉันท์ได้เกิดขึ้นมาแล้วพร้อมกับ “น้องเกี่ยวก้อย”
จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจริงจังอะไรกับ “สมานฉันท์” อีก
แม้ว่าข้อเสนอนี้จะผลักดันโดยพรรคประชาธิปัตย์ โดยมี นายชวน หลีกภัย รับหน้าเสื่อในฐานะประธานรัฐสภาก็ตาม
คำตอบของเรื่องนี้มิได้อยู่ที่การกระพือของข่าวที่ว่ารัฐบาลจะส่ง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ เข้ามาเป็นกรรมการ ขณะที่พรรคพลังประชา รัฐจะส่ง นายธนกร วังบุญคงชนะ เข้ามาเป็นกรรมการ
โดยให้ความสนใจน้อยมากต่อการที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องการ ให้คนของตนมีตำแหน่งในกรรมการ “สมานฉันท์” ด้วย
ประเด็นมิได้อยู่ที่การปฏิเสธบทบาทและความหมายของตัวแทนอันส่งมาจากพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น หากแต่อยู่ที่ภาพลักษณ์ของคนจากรัฐบาลและจากพรรคพลังประชารัฐ
ไม่ว่าจะเป็น นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ไม่ว่าจะเป็น นายธนกร วัง บุญคงชนะ มีภาพลักษณ์ในลักษณาการเดียวกันกับ นายไพบูลย์ นิติตะวัน น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ นายสิระ เจนจาคะ
นั่นก็คือ เล่นบทประสาน “งา” มากกว่าประสาน “งาน”
หากต้องการให้วงแตกรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐก็ต้องส่งคนเหล่านี้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในวงๆนั้นก็เรียบร้อย
จากท่าทีเช่นนี้ไม่ว่าจะมาจากรัฐบาล ไม่ว่าจะมาจากพรรคพลังประชารัฐ ไม่มีใครสงสัยในท่วงท่าและอาการ คำถามจึงพุ่งเข้าไปยังภายในพรรคประชาธิปัตย์เป็นสำคัญ
เป็นคำถามถึงศักดิ์ศรีของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคำถามถึงบท บาทและความหมายของพรรคประชาธิปัตย์
แท้จริงแล้ว รัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ มองอย่างไร
มองอย่างให้เกียรติ มองอย่างเท่าเทียมกัน หรือเสมอเป็นเพียงลูกแหล่งตีนมือที่แทบไม่มีความหมายอะไรเลย