สุดารัตน์ เสนอ 3 มาตรการเร่งด่วน รับมือโควิดรอบใหม่ ย้ำ เราพลาดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กล่าวถึงกรณี 3 มาตรการที่ต้องรวดเร็ว เร่งด่วน รัดกุม เพื่อรับมือการระบาดโควิด-19 รอบใหม่ พร้อมเน้นย้ำว่าเราพลาดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาคร ที่เวลานี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมเป็นตัวเลขที่พุ่งสูงไปแตะ 600 กว่ารายแล้วนั้น ดิฉันได้เคยเตือนผ่านเฟซบุ๊กตั้งแต่ 8 กย.ว่าให้ระวังและคุมเข้มชายแดนด้านตะวันออกให้เข้มแข็ง เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศอินเดียพุ่งขึ้นสูงมาก ซึ่งจะกระทบถึงประเทศเมียนม่าแน่นอน จึงต้องเข้มงวดในการตรวจตราผู้ใช้แรงงานที่ข้ามแดนมาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างจริงจังปรากฏว่าก็เป็นไปตามที่ดิฉันเตือน ในที่สุดการระบาดก็กลับมารุนแรงอีกครั้งจากแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าไทย

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความบกพร่องของมาตรการในการป้องกันโรค โดยเฉพาะการตรวจตรา “ชายแดน” ที่มีการตั้งข้อสังเกตและมีข้อมูลว่าเกิดการทุจริตในการจัดเก็บหัวคิว โดยปล่อยให้แรงงานเพื่อนบ้านสามารถข้ามแดนมาได้โดยที่ไม่ต้องมีการตรวจโรค และการกักตัว 14 วัน ดิฉันขอบอกอย่างตรงไปตรงมาว่า “เราพลาดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว” จึงขอเสนอ 3 มาตรการเร่งด่วนที่ต้องทำทันที ทำให้เร็วอย่างเข้มข้น และรัดกุมมากที่สุด

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า 1.ล็อกดาวน์จริงจัง ป้องกันการแพร่ข้ามอำเภอ ข้ามจังหวัด ไม่ใช่เพียงการห้ามแรงงานเพื่อนบ้านเคลื่อนย้ายเข้าหรือออกจังหวัดสมุทรสาคร แต่ต้องห้ามประชาชนในพื้นที่เสี่ยงและมีการแพร่ระบาดไม่ให้ออกนอกพื้นที่เด็ดขาด ด้วยการล็อกดาวน์พื้นที่ย่อยในระดับอำเภอไม่ให้การแพร่ระบาดขยายข้ามเขตอำเภอ และป้องกันไม่ให้ขยายข้ามจังหวัด ต่อมาต้องปูพรมตรวจหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งแรงงานและประชาชนที่มีความเสี่ยง เพื่อยับยั้งการแพร่เชื้อให้ได้เร็วที่สุด ภาครัฐต้องสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น รวมถึงงบประมาณแก่เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหา อย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ ต้องไม่ปล่อยให้โรงพยาบาลต้องออกมาขอรับบริจาคอย่างในขณะนี้ ทั้งที่รัฐบาลมีงบกลางเป็นแสนล้าน รวมทั้งมีงบประมาณที่กู้มาหลายแสนล้าน

2.เข้มข้นตรวจตรา เฝ้าระวังชายแดน ทั้งแนวชายแดนด้านตะวันตก และแนวชายแดนด้านตะวันออก โดยเฉพาะด้านตะวันตก ต้องให้เข้มข้น รัดกุม กำลังทหาร ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ต้องเสริมเข้ามาในพื้นที่และปฏิบัติการตรวจตราให้เข้มข้น ป้องกันการลักลอบเข้าเมือง รวมทั้งต้องเสริมกำลังเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตามแนวชายแดนในการคัดกรอง ตรวจหาเชื้อ อย่างเต็มกำลัง รวมถึงมีการกักตัวแรงงาน และคนไทย เป็นเวลา 14 วัน ด้วยการเตรียมพร้อมสถานที่กักกัน ก่อนให้ผ่านแดนออกมาสู่ชุมชนภายในประเทศไทย

Advertisement

3.ปูพรมตรวจเชื้อทุกจังหวัด เร่งปูพรมตรวจเชื้อเป็นการเร่งด่วน ในจังหวัดที่มีแรงงานเพื่อนบ้านเข้าไปทำงานเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงในระยะนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องจัดให้มีการปูพรมตรวจหาเชื้อเชิงรุก รวมถึงมีแผนการควบคุมและจัดการพื้นที่ในแต่ละจังหวัดอย่างเคร่งครัด ดิฉันขอเรียนย้ำอีกครั้งว่า เราพลาดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image