‘ส.ส.พปชร.’ รับหนังสือ ‘กลุ่มทำทาง’ หลัง กม.ทำแท้งเข้าสภา เผยรอตั้ง กมธ.
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่รัฐสภา น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะทำงานด้านนโยบายสตรีพรรคพลังประชารัฐ รับหนังสือจาก กลุ่มทำทาง กรณีที่จะมีการนำวาระการรับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา เกี่ยวกับความผิดฐานทำให้แท้งลูก มาตรา 301-305 เข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฏร
น.ส.ธณิกานต์กล่าวว่า เนื่องจากวันนี้จะมี พ.ร.บ.เกี่ยวกับผู้หญิง ประเด็นการทำแท้งเข้าสู่ที่ประชุมสภา และกลุ่มทำทางมายื่นข้อเสนอเรื่องการปรับปรุงกฎหมายอาญายกเลิกมาตรา 301 และปรับปรุงมาตรา 305 จึงวันนี้จะเป็นประเด็นพิจารณาเรื่องทำแท้ง โดยประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงกันเป็นสิทธิสตรีของผู้หญิงในการมีอิสรภาพของร่างกายในการทำแท้งอย่างไรบ้าง และประเด็นของความคุ้มครองของทารกที่อยู่ในครรภ์ ซึ่งถือเป็นอีกชีวิตหนึ่ง
น.ส.ธณิกานต์กล่าวว่า วันนี้จึงจะมาคุยกันถึงร่างที่รัฐบาลเสนอมาว่าให้ทำแท้งได้เมื่ออายุครรภ์ 12 สัปดาห์ แต่ร่างของประชาชนและร่างของนายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอให้มีอายุครรภ์ในการทำแท้ง 24 สัปดาห์ ที่มีผลวิจัยออกมาว่าทารกที่ออกมาจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ ทั้งนี้ ตนจะรับหนังสือไว้ในขั้นตอนของการตั้ง กมธ.ในวันนี้
อ่านข่าว : ครม.เห็นชอบแก้ กม. ให้ทำแท้งได้อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ ชี้มีสิทธิและเสรีในร่างกาย
ด้านตัวแทนกลุ่มทำทางและเครือข่ายภาคสังคม กล่าวว่า จุดยืนของกลุ่มทำทางและเครือข่ายคือเราเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 301 ที่ให้บุคคลที่ทำแท้งมีความผิดและมีโทษทางอาญา แต่ในวันนี้สองร่างที่จะเข้าพิจารณาในสภาคือร่างของ ครม.และร่างของพรคก้าวไกล อย่างที่ น.ส.ธณิกานต์กล่าวไปข้างต้นว่าร่างของ ครม.เสนออายุครรภ์ไว้ที่ 12 สัปดาห์ และ 24 สัปดาห์ จึงขอสนับสนุนร่างที่ 24 สัปดาห์ เพราะอยากจะสนับสนุนสิทธิของผู้หญิงที่จะเข้าถึงบริการที่มีความปลอดภัย
น.ส.นิศารัตน์ จงวิศาล ผู้ให้คำปรึกษากลุ่มทำทาง กล่าวว่า อายุครรภ์ 24 สัปดาห์อย่างที่ น.ส.ธณิกานต์กล่าวนั้นเป็นตัวเลขที่มีที่มาที่ไป ซึ่งมาจากอัตราการรอดของตัวอ่อน แต่ในอีกทางหนึ่ง ในสถานการณ์ความเป็นจริง กฎหมายเดิมไม่อนุญาตให้ผู้หญิงทำแท้ง ผลักให้ผู้หญิงไปสู่บริการทำแท้งที่ไม่ปลอดภัย และในร่างที่อายุครรภ์อยู่ที่ 12 สัปดาห์ ตามสถิติผู้หญิงที่อายุครรรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ ประมาณ 20 % ที่อาจถูกผลักไปสู่บริการทำแท้งที่ไม่ปลอดภัยและอาจถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
“นี่เป็นโอกาสดีที่จะแก้กฎหมาย และอยากจะให้ดันไปที่ 24 สัปดาห์ ซึ่งไม่ได้หมายถึงว่าผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อมจะต้องทำแท้งที่อายุครรภ์ 24 สัปดาห์เท่านั้น แต่หมายถึงคนที่มีความจำเป็นจริงๆ เข้าไม่ถึงบริการจริงๆ ไม่มีเงิน ไม่รู้ข้อมูลหรือใดๆ ก็ตาม เขายังมีทางออก และมองเห็นเจตนาดีที่จะแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ ดังนั้น เพราะอะไรถึงจะไม่ทำให้ดีที่สุด เพื่อคุ้มครองชีวิตของผู้หญิงไม่ให้เสียชีวิตจากการทำแท้งที่ไม่ปลอดภัย” น.ส.นิศารัตน์กล่าว