ไทม์ไลน์ ‘โควิด’ ระบาดไทย

ไทม์ไลน์ ‘โควิด’ ระบาดไทย

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ของจังหวัดสมุทรสาคร ที่มีผู้ป่วยโดยเฉพาะแรงงานเมียนมาเพิ่มขึ้นเป็นหลักพันอย่างรวดเร็ว นับเป็นตัวเลขพุ่งสูงครั้งแรกในที่ที่เดียวที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาก่อน และยังพบคนไทยบางส่วนในหลายจังหวัดที่ติดเชื้อจากแหล่งเดียวกัน

ไม่ว่าวันนี้ ศูนย์ข้อมูล COVID-19 กำลังอธิบายข้อสงสัยการระบาดที่แพกุ้งมหาชัยว่าเป็นการ ระบาดระลอกใหม่ (Newly Emerging) เป็นการติดเชื้อใหม่จากกลุ่มแรงงานต่างด้าว ไม่เชื่อมโยงเป็นล็อตเดียวกันกับระลอกแรกที่เกิดขึ้นภายในสนามมวยเวทีลุมพินีและผับย่านทองหล่อ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 จึงไม่เรียกว่าเป็นการระบาดระลอกสอง (Re-Emerging) ก็ตาม แต่มันคือการระบาดอยู่ดี

ทำให้คนไทยทั้งประเทศเสียความรู้สึกอย่างยิ่งเพราะคิดว่าทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น

Advertisement

เมื่อย้อนไปดูในเพจ ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ในวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ลงข่าวว่า CNN กล่าวชมเชยประเทศไทยว่าเป็น หนึ่งใน 4 ประเทศ ร่วมกับฟินแลนด์ กรีซ และนิวซีแลนด์ ได้รับเกียรติยกตัวอย่างว่า เป็นกลุ่มประเทศที่ผู้นำประเทศ และ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข มีการดูแล เอาใจใส่ และบริหารจัดการได้ผลดีมาก ในเรื่องควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในขณะนี้!!!

แต่วันนี้ ทำให้เห็นแล้วว่า สมุทรสาครเป็นจังหวัดที่ผู้ประกอบการต้องพึ่งพาแรงงานต่างด้าวทำงาน ทั้งกลุ่มที่เข้ามาถูกต้องและมีอีกจำนวนมากที่ลักลอบเข้ามาทำงาน มาพร้อมกับเชื้อโควิด เป็นเพราะด้วยความเห็นแก่ตัวของคนไทยบางส่วนไปจนถึงผู้ประกอบการไม่สนใจไยดีต่อการป้องกันโควิด

Advertisement

หากย้อนไทม์ไลน์ไปก่อนหน้านี้ ประเทศ

ไทยมีบทเรียนจากการแพร่ระบาดแบบเบิ้มๆ มาแล้ว

การแพร่เชื้อโควิดภายในสนามมวยลุมพินี

ในศึกลุมพินีแชมเปี้ยนเกียรติเพชร เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2563 กลายเป็น Super Spreader กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงเปิดเผยยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับสนามมวยลุมพินี เพียงสัปดาห์เดียวหรือในวันที่ 13 มีนาคม สกล มวยตู้ เซียนมวยที่ประกาศว่าติดเชื้อโควิดจากเวทีนี้ ก่อนที่ แมทธิว ดีน พิธีกรและนักแสดง ผู้เป็นพิธีกรในการชกศึก ลุมพินีเกียรติเพชร แจ้งผ่านอินสตาแกรมว่าติดเชื้อ โควิด-19 เข้าให้แล้ว

หากในวันนั้น การแพร่เชื้ออาจจะแย่หนักกว่าเดิมถ้าแมทธิวไม่เปิดเผย เพราะต่อมา ทั้งเจ้าหน้าที่ เซียนมวย นักมวย คนดังหลากวงการ ที่อัดแน่นในวิกมวยแห่งนี้ต่างตกเป็น กลุ่มเสี่ยง และเข้ารับการตรวจในทันที เบื้องต้นพบว่าเซียนมวยติดเชื้อโควิดกว่า 50 ราย และเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 พบผู้ติดเชื้อในกลุ่มสนามมวยรวมผู้สัมผัสแล้ว 160 ราย กระจายอยู่ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด

การจัดชกมวยที่สนามมวยลุมพินียังเป็นการฝ่าฝืนมติ ครม. 3 มีนาคม 2563 ให้หลีกเลี่ยงหรือเลื่อนการจัดกิจกรรมทุกประเภท ก่อนจะมีการฝ่าฝืนที่จะจัดชกมวยรายการใหญ่นี้ต่อไปในวันที่ 6 มีนาคม 2563

ถัดมาวันที่ 12 มีนาคม 2563 นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวพบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 11 ราย เกิดขึ้นจากชาวฮ่องกงเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 และเริ่มป่วยในอีก 4 วันถัดมา ขณะที่ป่วยยังปาร์ตี้กับเพื่อนคนไทยจำนวน 15 คน จำนวน 2 ครั้ง คือ วันที่ 27 และ 29 กุมภาพันธ์ ก่อนที่อาการโควิดจะสำแดงขึ้นในกลุ่มคนไทย มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 11 คน เป็นชาย 5 ราย หญิง 6 ราย

งานสังสรรค์ดังกล่าวมีการกินข้าวบนโต๊ะเดียวกัน ไร้ช้อนกลาง ชนเหล้าและดื่มแก้วเดียวกัน สูบบุหรี่มวนเดียวกัน แม้ปลัดสุขุมจะบอกว่า ยังไม่เข้าข่ายซุปเปอร์สเปรดเดอร์ เพราะรู้ที่มาว่าติดต่อจากใคร แต่ทำให้คนไทยตระหนักว่าโควิดติดกันง่ายมาก การกินร้อน ช้อนตัวเอง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัยและหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่แออัด ถูกบอกต่อกันอย่างรวดเร็ว

ขณะที่เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2563 ศบค.แจ้งตัวเลขพื้นที่คนป่วยโควิดในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบผู้ป่วยติดเชื้อผ่านการสัมผัสต่อกันถึง 3 ทอด โดยคนไทยกลุ่มดาวะห์ (พิธีทางศาสนา) เดินทางกลับมาจากมาเลเซีย อินโดนีเซีย และปากีสถาน รวมถึงพิธีทางศาสนาที่บันนังสตา ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม-12 เมษายน 2563 ยะลาพบติดเชื้อ 82 ราย ตามด้วย สงขลา 56 ราย นราธิวาส 28 ราย และปัตตานี 77 ราย

ที่สร้างความสะพรึงกลัวไปทั่วระยองและหลายจังหวัดในภูมิภาคของไทย เมื่อ ทหารอียิปต์ พร้อมลูกเรือทั้งคณะ 31 คน เดินทางเข้าประเทศไทย ตามมาตรการยกเว้นของรัฐบาล แต่ดันหนีการกักตัวและพากันไปเดินห้างแหลมทองกับห้างเซ็นทรัลระยอง ใช้เวลาราว 3-4 ชั่วโมงก่อนกลับโรงแรม ช่วงระหว่างวันที่ 9-10 กรกฎาคม 2563 ทหารอียิปต์ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 ภายหลังเดินทางกลับประเทศต้นทางแล้ว

ส่งผลทำให้ภาคการค้า การขาย โดยเฉพาะการท่องเที่ยวของระยองตกที่นั่งลำบาก บรรยากาศเงียบสงัดหลังนักท่องเที่ยวแห่ยกเลิก เบนเข็มหนีไปเที่ยวที่อื่น กระทั่งมีการฟื้นความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวกลับมาแวะเวียนระยองอีกครั้ง

ส่วนกรณี คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 พบผู้ป่วยโควิด-19 เป็นหญิง อายุ 29 ปี เดินทางด้วยช่องทางธรรมชาติมาจากจังหวัดท่าขี้เหล็ก ในประเทศเมียนมา ผ่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เข้ามาใน จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 ต่อมาเข้าตรวจหาเชื้อโควิค-19 ที่

โรงพยาบาลเอกชน ผลการตรวจยืนยัน 2 แล็บ ทั้งของโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลนครพิงค์ ระบุตรงกันว่าผลยืนยันพบเชื้อ

โควิด-19 และต่อมายังพบผู้ป่วยโควิดอีก 2 ราย

จ.เชียงราย ลักลอบเข้าประเทศอีกเช่นกัน

จากนั้นที่เชียงใหม่ยังพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม 2 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 23 ปี และ 25 ปี ลักลอบกลับเข้ามาในประเทศไทย มีบางรายเดินทางไปหลายพื้นที่ เกิดการแพร่เชื้อกับผู้ที่สัมผัสและคนใกล้ชิด ส่งผลให้มี

ผู้ติดเชื้อโควิด เสี่ยงติดโควิดภายในประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 10 ราย ทั้งในกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา พิจิตร ราชบุรี และสิงห์บุรี เป็นต้น

ธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ นักท่องเที่ยวต่างพากันยกเลิกการจองโรงแรมเป็นจำนวนมากทั้งในเชียงใหม่และเชียงราย แม้จะยังไม่พบการแพร่ระบาดจากผู้ป่วยหลักสู่คนทั่วไปในพื้นที่ก็ตาม ทั้งที่บรรยากาศการท่องเที่ยวกำลังจะฟื้นตัวอีกครั้ง ที่ไปใกล้กับช่วงวันหยุดยาว 3 วัน ระหว่างวันที่ 5-7 ธันวาคม 2563 หลายคนวางแผนเดินทางมา จ.เชียงใหม่ กลับต้องยกเลิกไปเป็นจำนวนมาก

เหตุในครั้งนี้ที่เริ่มมีการพูดถึงกันมากถึงช่องทางลักลอบเข้าไทยนั้นไม่ได้ยากเย็นเลย แม้กำลังเจ้าหน้าที่จะมีมากในการกวดขันตามเส้นทางชายแดนแล้วก็ตาม ยังไม่นับเส้นพรมแดนในพื้นที่อื่นๆ อีกที่แรงงานต่างด้าว หรือแม้แต่คนไทยด้วยกันต่างหลบหนีเข้ามามีอีกแค่ไหน กระทั่งต่อมาเกิดแจ๊กพ็อตแตกที่สมุทรสาคร เชื่อว่าสมุทรสาครจะไม่ใช่จังหวัดสุดท้ายที่เจอ

ต้องมาจับตาและช่วยเป็นกำลังใจให้เหตุโควิดแพร่ที่สมุทรสาครจะลงเอยด้วยดีในเร็ววัน

หากฟื้นตัวได้เมื่อไหร่ก็เท่ากับฟื้นคืนทั้งประเทศไปด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image