นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และอดีตกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงความคืบหน้าการรวบรวมประชาชนที่มีอุดมการณ์ตรงกัน เพื่อเตรียมจัดตั้ง “พรรคประชาชนปฏิรูป” พรรคการเมืองของประชาชนว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อประชาชนที่จะมาเข้าร่วมเป็นสมาชิกก่อตั้งของพรรค ส่วนตัวจะพยายามหาประชาชนให้ครบทั้ง 77 จังหวัด เพราะพรรคประชาชนปฏิรูป เน้นเป็นพรรคของประชาชนจึงให้ความสำคัญกับประชาชนที่อยู่ในทุกจังหวัด และพรรคของเรายืนยันที่จะสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกตามรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติ เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีที่ดี มีความซื่อสัตย์ สุจริต และมีความสามารถ ซึ่งการสนับสนุนไม่เกี่ยวกับการที่ท่านเป็นทหารแต่อย่างใด และส่วนตัวเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์คงจะไม่ยอมให้พรรคการเมืองใดนำชื่อของท่านไปเป็นหนึ่งในบัญชีรายชื่อของบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีตามร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 88 ได้ ดังนั้น โอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์จะสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ก็จะต้องเป็นไปตามกรณีที่บัญญัติไว้ในร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เท่านั้น
นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าเข้าสู่การเลือกตั้ง พรรคประชาชนปฏิรูปก็จะไม่เสนอรายชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคตามร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 และเมื่อมีการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 โดยเลือกรายชื่อจากบัญชีที่พรรคการเมืองอื่นที่เสนอเข้ามาตามมาตรา 88 นั้น ส.ส พรรคเราก็จะไม่เลือกบุคคลใดทั้งสิ้น และถ้าตามขั้นตอนเลือกครั้งแรกหากการพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรีไม่มีชื่อของผู้ใดได้เสียงข้างมากของ ส.ส. ก็จะต้องดำเนินการตามมาตรา 272 โดย ส.ส.ของพรรคประชาชนปฏิรูป ก็จะใช้สิทธิและหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญร่วมสนับสนุนการเสนอชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ตามร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ประกอบมาตรา 159 ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการของร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านการทำประชามติ
นายไพบูลย์กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีนักการเมืองระบบเก่าที่อยู่ในสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) จะร่วมมือกับอดีตทหารจัดตั้งพรรคทหารขึ้นว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยและขอคัดค้านที่จะให้มีพรรคการเมืองทหารเกิดขึ้น เพราะมีความเป็นห่วงว่าจะทำให้เกิดความขัดแย้งอีกครั้งในสังคม และเกิดนักการเมืองพรรคการเมืองที่สร้างปัญหากับการปฏิรูปการเมืองกลับไปสู่วังวนเก่า รวมทั้งเป็นการทำลายเจตนารมณ์ของประชาชนที่มาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนหลายล้านคนก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ซึ่งประชาชนได้เสียสละชีวิต ทรัพย์สิน และแรงกายแรงใจต่อสู้เพื่อต้องการให้มีการปฏิรูปการเมือง นักการเมือง พรรคการเมือง
“ถ้าหากปล่อยให้นักการเมืองระบบเก่าร่วมมือกับอดีตนายทหารจัดตั้งพรรคทหาร เท่ากับทำให้การต่อสู้ของประชาชนเกิดความเสียเปล่า และพรรคดังกล่าวอาจจะอ้าง พล.อ.ประยุทธ์ ไปหาประโยชน์เข้าพวกตนในทางลับทำให้ พล.อ.ประยุทธ์เสียหาย และกระทบกับผลประโยชน์ของประชาชน ผมจึงจะติดตามตรวจสอบการจัดตั้งพรรคทหารดังกล่าวต่อไป” อดีต สปช.กล่าว
