ผลกระทบจากโควิดตลาดกุ้งมหาชัย ส่งผลรุนแรง และแผ่กว้างไปหลายด้าน แต่ส่วนหนึ่งที่มีผลกระทบแน่ๆ ไม่พ้นประเด็นอารมณ์ความรู้สึกที่มีต่อแรงงานชาวพม่า แน่นอนว่าเป็นชุดเชื่อมโยงของการแพร่ระบาดครั้งนี้ ทำให้ตกเป็นเป้าการสอบสวนโรค ต้องมีการปิดล้อมพื้นที่ตลาดกุ้ง และอาคารที่พักของแรงงานพม่า
แบบ 100% เพื่อควบคุมอย่างเข้มงวดที่สุด
มองอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ มีการระบาดหนักของโควิดในพม่า เมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดยโยงมาจากอินเดีย
ต้องถือว่า แรงงานพม่าเหล่านี้มีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดโควิดคลัสเตอร์สมุทรสาคร
ซึ่งก็ต้องดำเนินการควบคุมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด
โดยดำเนินการตามกระบวนการแพทย์
แต่ไม่ใช่การใช้อารมณ์แบบชาตินิยม มองแรงงานต่างด้าวด้วยสายตารังเกียจเหยียดหยาม กล่าวโทษว่าเป็นตัวการ
ด้านหนึ่ง รัฐบาลเอง หน่วยงานราชการเอง ควรตรวจสอบตัวเองว่า บกพร่องหละหลวม หรือมีการทุจริตเกิดขึ้น ทำให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาแบบผิดกฎหมาย จนขาดการควบคุมที่ดีพอ
โดยไม่ควรใช้วิธีพูดจากล่าวโทษไปยังผู้อื่นแทน
เหมือนกรณีโควิดท่าขี้เหล็ก เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ไปโทษกลุ่มหญิงสาวที่ข้ามแดนไปทำงานแล้วนำเข้าโควิดมาแพร่ในไทย
โยนใส่กลุ่มนี้กลุ่มเดียว ทำนองว่าไม่มีสำนึกรับผิดชอบ โดยไม่มองความบกพร่องของหน่วยงานราชการ
มากรณีมหาชัย พูดไปพูดมา ปัดกันไปปัดกันมา ลงกลายเป็นแรงงานพม่าตกเป็นจำเลยสังคม
เพราะสังคมไทยเรามักสร้างทัศนคติ ว่าไทยเราเหนือกว่าใครในย่านนี้
ทั้งที่ความเป็นจริง เป็นเวลาหลายปีมาแล้ว ที่สังคมไทย ทั้งภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม การประมง ก่อสร้าง งานตามร้านอาหาร ไปจนถึงคนงานภายในบ้านต่างๆ
ต้องพึ่งพาแรงงานเพื่อนบ้าน จนถึงขั้นขาดไม่ได้แล้ว
ขาดแรงงานต่างด้าวเมื่อไหร่ ก็ขาดใจไปตามๆ กัน ชอร์ตไปทั้งระบบ
เพราะวันนี้ จะหาแรงงานไทยเราเอง เพื่อทำงานหนักๆ ตามโรงงาน ตามสวนตามไร่ ตามเรือประมง ตามไซต์งานก่อสร้าง งานเสิร์ฟ คนใช้ในบ้าน
แทบไม่มีอีกแล้ว
งานหนักเหนื่อยสายตัวแทบขาด ก็ต้องอาศัยแรงงานต่างด้าวทั้งนั้น
ดังนั้นควรตระหนักในข้อเท็จจริงว่า สังคมไทยเราพึ่งพาแรงงานเพื่อนบ้านอย่างสูงมาก อีกทั้งความเป็นโลกยุคใหม่ที่ต้องยอมรับความแตกต่าง และการอยู่ร่วมกันอย่างหลากหลาย
ยกตัวอย่าง ตอนที่มีแข่งกีฬาซีเกมส์ เราก็เชียร์ทีมชาติไทยของเราไป แต่เผลอไปหมิ่นชาติคู่แข่งขึ้นมา ก็เจอสายตาแปลกๆ จากเด็กเสิรฟ์ในร้านอาหารที่นั่งดูกีฬานั้น
หรือแม้แต่นั่งดูทีวีในบ้าน คนทำงานบ้านที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ก็เป็นชาติเพื่อนบ้านนั่นเอง
โควิดที่กลับมาระบาดรอบใหม่ สร้างความยากลำบากไปทั่ว
กระทบเศรษฐกิจ สูญเสียโอกาสทองของธุรกิจ ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
สถานที่ท่องเที่ยวเงียบเหงา โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร งานรื่นเริงขนาดใหญ่ต้องงดหมด
ไม่ควรทำให้บรรยากาศที่เลวร้ายอยู่แล้วนี้ ต้องหนักหนาสาหัสขึ้นไปอีก ด้วยการสร้างความรังเกียจเหยียดหยามในหมู่เพื่อนมนุษย์
สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน
