“เทพไท” ชี้ ฉายารัฐสภามีผลมาจาก รธน.60 แนะ เร่งแก้ไขให้เป็น ปชต. ติดใจฉายา ผู้นำฝ่านค้าน น่าจะเป็นผู้นำไร้น้ำยามากกว่า
เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การตั้งฉายาให้กับรัฐสภาของสื่อมวลชนประจำรัฐสภาในปีนี้ว่า ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของทุกปี ที่สื่อมวลชนประจำรัฐสภา จะมีฉายาให้กับสมาชิกรัฐสภา ซึ่งถือว่าเป็นกระจกเงา ที่สะท้อนภาพการทำงานของสมาชิกรัฐสภาในรอบปีที่ผ่านมา ฉายาทั้งหมดอาจจะมีถูกใจ หรือไม่ถูกใจของใครบางคนบ้างก็ตาม ในฐานะที่ตนเป็นสมาชิกรัฐสภาคนหนึ่ง ที่ไม่ได้โดนตั้งฉายา แต่เคารพและยอมรับการตั้งฉายาประจำปีนี้ทั้งหมด แม้จะเห็นด้วยกับบางฉายา เช่นฉายาของรัฐสภา ฉายาของประธานวุฒิสภา ฉายาของวุฒิสภา และฉายาของเหตุการณ์แห่งปี
ส่วนที่เห็นว่าเป็นฉายาที่ไม่ตรงข้อเท็จจริง เช่น ฉายาของประธานสภาผู้แทนราษฎร ฉายาของผู้นำฝ่ายค้าน และฉายาดาวดับแห่งปี เพราะเห็นว่าฉายาครูใหญ่ไม้เรียวหัก อาจจะไม่ตรงกับบทบาทของการทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะเป็นการทำหน้าที่เพื่อขอความร่วมมือจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่มีบทลงโทษเป็นจิตสำนึกส่วนบุคคล และสภาชุดนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีความหลากหลายมากกว่าสภาทุกสมัย ส่วนฉายาของผู้นำฝ่ายค้านนั้นเห็นว่าควรจะตั้งฉายาให้ตรง กับบทบาท ถ้าเห็นว่ามีบทบาทไม่โดดเด่นเท่าที่ควร ก็อาจจะตั้งเป็นฉายาผู้นำฝ่ายค้านที่โลกลืม หรือผู้นำฝ่ายค้านไร้น้ำยาก็ได้ ไม่ควรจะไปเปรียบเทียบกับชื่อของนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ส่วนฉายาดาวดับ ของนายวิสาร เตชะธีรวัฒน์ ส.ส.เชียงรายพรรคเพื่อไทย เห็นว่าเป็นการแสดงออกทางการเมือง และไม่มีผลกระทบในทางลบที่รุนแรงจนถึงขั้นเป็นดาวดับได้
“การเกิดขึ้นของฉายาทั้งหมดนี้ ก็มาจากบริบททางการเมืองที่เกิดขึ้นภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2560 ทั้งสิ้น เป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากการเขียนเพื่อสืบทอดอำนาจ จึงทำให้องค์ประกอบทางการเมืองทุกภาคส่วน มีข้อจำกัดและเกิดอาการบิดเบี้ยวอย่างที่เห็นกันอยู่ จึงจำเป็นต้องเร่งผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ให้เป็นประชาธิปไตย และยึดโยงกับประชาชนอย่างแท้จริง” นายเทพไทกล่าว
