แห่ปิคนิค ส่งแรงใจ – ‘19 การ์ดวีโว่’ พบอัยการ ปม ขนลวดหนาม ‘โตโต้’ ลั่น เป็นคดีที่คึกครื้น เย้ย ‘ถือเป็นเกียรติ’ เติมเชื้อเพลิงสู้ต่อ
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 3 ดุสิต ถนนบรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ผู้ต้องหา การ์ดอาสากลุ่ม We Volunteer หรือ Wevo ทั้ง 19 คน นำโดย นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ เข้ารายงานตัวต่ออัยการ ข้อหากระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 มั่วสุมตั้งแต่ 10 คน, มาตรา 216 เจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก, และ มาตรา 138 ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน จากกรณีเก็บลวดหนามหีบเพลงที่วางทิ้งไว้บริเวณแยกอุรุพงษ์ ซึ่งเดือดร้อนประชาชนเรื่องการสัญจร เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม โดยทั้ง 19 คนให้การปฏิเสธ นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศโดยทั่วไป มีประชาชน และทีม Wevo เดินทางมาให้กำลังใจผู้ต้องหาทั้ง 19 คน ซึ่งประกอบไปด้วย เพศหญิง 1 คน, ชาย 17 คน และผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ 1 คน โดยบางส่วนจับกลุ่มพูดคุย เตะฟุตบอล และนั่งพักผ่อน
น.ส.จตุพร แซ่อึง หรือนิวส์ หนึ่งในทีมงานบุรีรัมย์ปลดแอก ผู้ต้องหาคดี ม.112 กล่าวว่า มาให้กำลังใจ และมาปิคนิค พักผ่อนด้วย เจอกันทุกวันแต่ก็ยังออกมาพักผ่อนด้วยกันอยู่ดี ช่วงนี้ไม่ขึ้น สน. ก็ศาล มีแค่นั้น
“ส่วนตัว ถูกคดี ม.112 ยังไม่ทราบวันรายงานตัว ถ้าถึงคิวหนู ก็มากันเยอะๆ นะคะ มันอบอุ่น” น.ส.จตุพรกล่าว
ด้าน นายปิยรัฐกล่าวว่า ตอนนี้ผมอยู่ที่อัยการแขวงดุสิต แต่พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่เดียวกับสำนักงานอัยการ แขวงตลิ่งชัน 3 บริเวณถนนบรมราชชนนี ทั้ง 19 คน กำลังเข้าแถวตามที่ทนายสั่ง บอกชื่อ และเรียงตามตำแหน่ง 19 คน ซึ่งเยอะมาก เป็นคดีที่ถือว่าคึกครื้นพอสมควร ไม่ได้ดูน่ากลัว
“ผมจะบอกว่า วีโว่ ไม่ใช้คนที่เกรงกลัวต่อคดีอาญา จะด้วยคดีอะไรก็ตามแต่ เราพร้อมและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการกับเรา เนื่องจากเราถือว่าคดีเหล่านี้เป็นคดีประวัติศาสตร์ เป็นคดีเกียรติประวัติ เป็นเชื้อเพลิงขับเคลื่อนให้ไปต่อได้ ให้เรามีกำลังใจต่อ ฉะนั้นเราจะแปรวิกฤต เป็นโอกาสแปรเป็นการตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐ และเราจะช่วยพี่น้องประชาชน ในแนวทางที่เราตั้งใจและตั้งเป้าไว้ ไม่ได้ย่นย่อ ท้อถอยแต่อย่างใด
“ตอนนี้เพื่อนๆ ของเราไม่ได้กลัว ดูสีหน้าพวกเขา เตะบอลกันเมื่อสักครู่ ส่วนหลังจากนี้ เราจะเข้าพบอัยการตามที่พนักงานสอบสวนนัดหมาย เพื่อส่งหมายอัยการวันนี้ หลังจากนี้อัยการจะนัดหมายอีกครั้งว่าจะส่งฟ้อง หรือพบอัยการอีกครั้งวันไหน โดยหลังจากนี้ไป เราจะช่วยเพลือพี่น้องตามโครงการที่ตั้งไว้ คือ ‘โครงการวีโว่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากโควิด’ โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรฟาร์มกุ้ง ซึ่งเราตั้งโครงการและทำภารกิจครั้งแรก เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2563 เราคิดว่า หลังจัดกิจกรรม ผลตอบรับดีมาก แต่มีคนไม่พอใจ ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปคุกคามผู้ประกออบการ-เจ้าของคนขับรถบรรทุกกุ้ง
จนเขาปฏิเสธที่จะเอากุ้งมาส่งวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ซึ่งเขาก็อยากขาย อยากเอามา แต่อาจไม่กล้าพอที่จะเอาชีวิตครอบครัวของเขามาเสี่ยงกับการถูกตำรวจในพื้นที่นครปฐมคุกคามหรือไม่ เขากลัวไปหมด ถ้าเป็นแบบนี้ คุณจะอดตายหรือกลัวกับคดีที่ตำรวจจะสรรหาให้ เขาบอกว่า พร้อมจะมาอีกครั้ง แต่ช่วยรับรองให้เขาหน่อยว่าตำรวจจะไม่ทำอะไรเขา ผมก็เลยบอกว่า ให้เวลาตำรวจไป 3 ชัวโมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ต้องมีคำชี้แจ้งให้กับเรา และถ้าไม่มีคำชี้แจ้งหลังจากนี้ เราจะต้องดำเนินการกับมาเฟียในคราบเครื่องแบบเหล่านี้ อย่าให้อำนาจหน้าที่ของราชการ มากดขี่ ข่มเหง รังแกประชาชน ถ้าจะดำเนินการ ให้ดำเนินการที่ผม ที่ชาววีโว่ เราพร้อม แต่อย่าไปรังแกประชาชน
ฉะนั้น ถ้าเราจะอาสาไปถามท่าน ถึง สน.ตำรวจแห่งชาติ หรือที่ทำเนียบรัฐบาล ไปหานายของท่าน นั่นคือสิ่งที่เราจะทำต่อไปหลังจบ 2 ชม. ครึ่ง เราทำจริง และเราไม่ได้ข่มขู่ เรามีความพร้อมที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน มีความตั้งใจดี ไม่ได้มาก่อกวน สร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้น ถ้าท่านมั่นใจว่าทำถูก ท่านชี้แจง บอกเรามา แต่ถ้าท่านไม่มั่นใจ ท่านต่อสายถึงผม ขอโทษไปที่ผู้ประกอบการ และรับปากว่าจะไม่มีการคุกคามอีก ก็จบกัน
พูดกันแบบนี้แฟร์ๆ ฝากช่วยกันติดตาม ผมจะสั่งสอนมาเฟียในเครื่องแบบ อย่าให้เกิดปรากฏการณ์มาเฟียในเครื่องแบบ ไปซ้ำเติมความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเกษตรกรฟาร์มกุ้ง ไม่อย่างนั้นแล้ว ท่านจะไม่ใช่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ต่อให้รับคำสั่งใครมาก็ตาม ท่านไม่ใช่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ท่านเป็นมาเฟียในเครื่องแบบ” นายปิยรัฐกล่าว
