นร.เลว สวัสดีปี64 ขอบคุณทุกการสนับสนุน ขอปีหน้าเดินเคียง ส่งต่อ ‘การศึกษาที่ดี’ ให้ลูกหลาน

นร.เลว สวัสดีปี64 ขอบคุณทุกการสนับสนุน ขอปีหน้าเดินเคียง ส่งต่อ ‘การศึกษาที่ดี’ ให้ลูกหลาน

วันที่ 31 ธันวาคม กลุ่มนักเรียนเลว ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก นักเรียนเลว โดยระบุว่า

ในวาระส่งท้ายปี 2563 พวกเราขอขอบคุณทุกการสนับสนุนที่มีให้นักเรียนเลวมาโดยตลอด พวกเราจึงรวบรวมการเดินทางของนักเรียนเลวตลอด 6 เดือนที่ก่อตั้งองค์กรขึ้นมาฝากทุกคน 🙂

นักเรียนเลวเริ่มต้นจากการเป็นแอคเคาท์ที่พูดถึงปัญหาการศึกษา มีผู้ติดตาม 0 คน ไม่มีใครสนใจสิ่งที่เราจะสื่อ จนเติบโตมาถึงทุกวันนี้ ในช่วงแรกเราได้ล่ารายชื่อโรงเรียนที่ออกระเบียบทรงผมขัดต่อระเบียบกระทรวง รวบรวมได้ 286 โรงเรียนทั่วประเทศ โดยนำไปยื่นให้กระทรวง และ กมธ.การศึกษา

หลังจากยื่นหนังสือไปแล้วไม่พบความคืบหน้า เราจึงต่อสายตรงหากระทรวง ขอพบปลัดกระทรวงศึกษาธิการเพื่อหาทางออกในเรื่องทรงผมนักเรียน ซึ่งใช้เวลานัดหมายหลายครั้งตลอดหลายสัปดาห์ จนสุดท้ายเราได้เข้าพบเพียงแค่หัวหน้ากลุ่มกฎหมายการศึกษาที่ไม่มีอำนาจตัดสินใจอะไรในระเบียบกระทรวง

Advertisement

เราจึงกลับมาคิดว่าถ้ากระบวนการทางราชการมันใช้เวลานานและซับซ้อน เราลองเปลี่ยนมาใช้วิธีการชิงพื้นที่สื่อเพื่อให้สังคมกดดันดู จึงเกิดเป็นกิจกรรมแรกบนท้องถนน นั่นคือ #เลิกบังคับหรือจับตัด โดยมีพลอย เบญจมาภรณ์ นั่งให้ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาบริเวณสยามมาตัดผมของเธอ

แต่กิจกรรมดังกล่าวยังไม่ทำให้กระทรวงมีท่าทีตอบรับใดๆ เราจึงประกาศจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นอีกครั้งที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ พร้อมยื่นหนังสือทวงความชัดเจนของระเบียบทรงผมอีกรอบ จนได้รับชัยชนะเบื้องต้น กระทรวงยอมออกหนังสือแจ้งเวียนให้โรงเรียนทำตามระเบียบกระทรวง

ผ่านมาไม่นาน เกิดอีกกิจกรรมที่เราได้รับทราบความเดือดร้อนมาจากนักเรียน lgbtq+ รายหนึ่ง ว่าเขาไม่มีที่ยืนในระบบการศึกษาเลย จึงทำให้เราจัดขบวนไพรด์ #เราไม่ใช่ตัวประหลาด เพื่อยื่นหนังสือและแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทวงคืนสิทธิของนักเรียน lgbtq+ ให้มีความเท่าเทียม

หลังจากเรียกร้องด้วยวิธียื่นหนังสือมาหลายครั้ง แต่ปัญหาต่าง ๆ ตามโรงเรียนก็ยังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งกระทรวงก็ไม่ค่อยยอมทำตามข้อเรียกร้องของเรา เราจึงจัดม็อบครั้งแรก #นักเรียนไทยไม่ไหวแล้วโว้ย เพื่อเรียกร้องทุกปัญหาที่เกิดขึ้นในการศึกษาไทยให้กระทรวงแก้ไข

ผ่านมาไม่กี่สัปดาห์ ความตื่นตัวทางการเมืองของนักเรียนพุ่งสูงขึ้นจนน่าตกใจ กระแสนักเรียนผูกโบขาวชูสามนิ้วในโรงเรียนลามไปทั่วทั้งประเทศ แต่ครูกลับใช้ความรุนแรงเพื่อปิดปากนักเรียน จึงเกิดม็อบ #เลิกเรียนไปกระทรวง และวาทะเด็ดอย่าง #ไปต่อแถว เพื่อไล่รัฐมนตรีไปต่อแถวฟังนักเรียนพูด

เมื่อมีการตื่นตัวทางการเมืองของนักเรียนเกิดขึ้นในหลายจังหวัด ทำให้เกิดเป็นองค์กรนักเรียนมากมาย เราจึงประกาศจัดม็อบขึ้นอีกครั้งโดยรวบรวมองค์กรนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ มาร่วมกันเรียกร้องกว่า 50 องค์กร และมีไฮไลท์คือการเชิญรัฐมนตรีศึกษาธิการมาร่วมวงดีเบตกับนักเรียน

เมื่อไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง (อีกแล้ว) และเต็มไปด้วยข่าวครูทำร้ายนักเรียนเต็มไปหมด เราจึงจัดรถแห่ #ขับรถแห่ไปกูจะไปไล่อีณัฏฐพล แห่ไปยังโรงเรียนต่าง ๆ ที่ยังมีครูทำร้ายร่างกายนักเรียนและปิดท้ายเส้นทางที่กระทรวง เพื่อยื่นใบลาออก 10,000 แผ่น ไล่รัฐมนตรีที่ไม่มีประสิทธิภาพออกไป

ผ่านมาเดือนกว่าๆ ปัญหาทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เราจึงเปลี่ยนวิธีการเรียกร้องไปที่โครงสร้างทางการเมือง เพราะเราเชื่อว่าถ้าการเมืองดี การศึกษาก็จะดี ทุกๆ ปัญหาจะได้รับการแก้ไข จึงจัดกิจกรรมร่วมกับม็อบเฟส แห่ผ้าขาวจากกระทรวงให้ผู้คนเขียนความปราถนาขึ้นคลุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

จากนั้นนักเรียนได้จัดม็อบขึ้นอีกครั้ง #บ๊ายบายไดโนเสาร์ โดยขยายเนื้อหาและประเด็นจากแค่ในระบบการศึกษา เป็นการเมืองในทุกมิติ โดยมีนักเรียนเป็นผู้ปราศรัยทั้งหมด เพื่อแสดงจุดยืนว่านักเรียนก็สามารถพูดเรื่องการเมืองได้ เพราะการเมืองเป็นเรื่องของทุกคน

และกิจกรรมสุดท้ายของนักเรียนเลวในปีนี้ คือแคมเปญ #1ธันวาบอกลาเครื่องเเบบ ที่เชิญชวนให้นักเรียนแต่งชุดไปรเวทไปโรงเรียน โดยมีหลายโรงเรียนเริ่มปล่อยอิสระในการแต่งตัว แต่บางโรงเรียนก็ยังคุกคามนักเรียนเช่นเดิม จึงเกิดม็อบ #เลิกเรียนไปกระทรวง ครั้งที่ 2 เพื่อสะท้อนปัญหาเหล่านั้น

นี่คือการเดินทางของเราตลอดครึ่งปีที่นักเรียนเลวถือกำเนิดมา ขอขอบคุณทุกๆ คนที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวของเรามาโดยตลอดและร่วมเดินทางเคียงข้างพวกเรามา หวังว่าในปีหน้าทุกคนจะยังคงเดินทางเคียงข้างพวกเราต่อไปจนได้เห็นการศึกษาที่ดีขึ้นถูกส่งต่อให้ลูกหลาน

สุขสันต์วันปีใหม่ 2564 นะคะ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image