‘นิกร’ หนุนงดประชุมสภา ก่อนเป็นพื้นที่ อุลตร้าสเปรดเดอร์ ระบุ กมธ.แก้ รธน.ประชุมออนไลน์ไม่ได้ เหตุไม่มีข้อบังคับรองรับ
เมื่อวันที่ 2 มกราคม นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ (ฉบับที่…) พ.ศ… (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวดว่าด้วยสภาร่างรัฐธรรมนูญ) รัฐสภา กล่าวว่า ขณะนี้นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะประธานกมธ.ฯ ยังไม่มีคำสั่งให้งดประชุม กมธ.ในสัปดาห์หน้า แต่คาดว่าอาจมีคำสั่งเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่หลายฝ่ายมองว่าควรใช้การประชุมทางอิเล็กทรอนิกส์นั้น ตามข้อบังคับการประชุมร่วมรัฐสภา ไม่มีข้อกำหนดดังกล่าวไว้ ทำให้การประชุมทางอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐสภาไม่มีกฎหมายรองรับ
นายนิกรกล่าวว่า ขณะเดียวกันการประชุม กมธ.ที่พิจารณาร่างกฎหมายทางปฏิบัติไม่สามารถเรียกประชุมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ เพราะมีรายละเอียดสำคัญทั้งการอภิปรายเนื้อหาและการลงมติ อย่างไรก็ดี ตนมองว่าการทำงานของ กมธ.ยังมีเวลา หากงดประชุม และเร่งงานทีหลังสามารถทำได้ อีกทั้ง กมธ.ที่พิจารณาข้อกฎหมายไม่มีกรอบเวลาให้ทำงานสิ้นสุด เหมือนกับ กมธ.คณะอื่นๆ ที่กำหนดเวลา และเมื่อไม่เสร็จสามารถขอขยายได้ ทั้งนี้ ตามกรอบเวลา กมธ.กำหนดให้ทำงานให้เสร็จภายในเดือนมกราคมนี้ และเข้ารัฐสภาเดือนกุมภาพันธ์ ดังนั้น หากไม่ทันในการประชุมสภา สมัยสามัญ ที่สิ้นสุดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ สามารถขอเปิดวิสามัญเพื่อพิจารณาได้
“ปัจจุบันการประชุมสภา และวุฒิสภา ตามข้อบังคับสามารถประชุมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ แต่ยังไม่มีระเบียบรองรับ ทำให้ กมธ.ไม่สามารถประชุมได้จริง ดังนั้น ผมขอเรียกร้องไปยังสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งออกระเบียบปฏิบัติเกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ กมธ.ทำงานได้ไม่เกิดปัญหา” นายนิกรกล่าว
นายนิกรกล่าวถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภา นัดตัวแทนพรรคการเมืองและคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล และฝ่ายค้านหารือต่อการเลื่อนประชุมสภาฯ ในวันที่ 4 มกราคม ว่า ตนจะเข้าร่วมประชุมฐานะตัวแทนพรรคชาติไทยพัฒนา ในเบื้องต้นตนสนับสนุนให้งดประชุม ขณะเดียวกันควรใช้เวทีดังกล่าวหารือและทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้ กมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญถูกมองว่า ส.ส.พรรครัฐบาลดึงเวลา
“ความเห็นส่วนตัวด้วยว่าควรงดประชุมสภา และขอความร่วมมือ กมธ.สามัญ งดประชุม เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ อีกทั้งตนมองว่ารัฐสภามีความเสี่ยงสูง เพราะมีคนในพื้นที่หลายพันคน ขณะที่ ส.ส.และผู้ติดตามเดินทางมาจากหลายพื้นที่ ซึ่งอาจมีปัญหากรณีที่เดินทางจากพื้นที่ควบคุมพิเศษ และหากเกิดปัญหาขึ้นตนมองว่าจะเป็นการระบาดของไวรัส แบบอุลตร้า สเปรดเดอร์ จากเดิมที่หลายพื้นที่เป็นเพียงซุปเปอร์ สเปรดเดอร์” นายนิกรกล่าว
