อดีตเลขาสมช. อัดฝ่ายความมั่นคงล้าสมัย ไม่พร้อมรับภัยรูปแบบใหม่ ต้นตอโควิดรอบใหม่
เมื่อวันที่ 3 มกราคม พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทยอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กล่าวถึงที่ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลส่งท้ายปี2563 ตั้งฉายาให้แก่ รัฐบาลว่า :VERY “กู้” นายกรัฐมนตรี “ตู่ไม่รู้ล้ม” และวาทะแห่งปีว่า‘ไม่ออก..แล้วผมทำผิดอะไรหรือ’ ขณะที่ผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภาก็ตั้งฉายาวุฒิสภาว่า“สภาปรสิต” ซึ่งเป็นท่วงท่าแห่งอาการ”หัวตอ รอออเดอร์” ว่า ฉายาวาทะดังกล่าว อาจเปรียบเสมือนการสะท้อนความรู้สึกแทนประชาชนผู้รักประชาธิปไตยก็ว่าได้ ยิ่งเราพิเคราะห์ลึกลงไปจะเห็นว่าที่มาของฉายาและวาทะเหล่านั้น ล้วนมีรากเหง้ามาจากพฤติการณ์ไร้ยางอายที่รัฐบาลสืบทอดอำนาจถือปฏิบัติต่อเนื่องมาทั้งสิ้น แต่เร็ววันนี้เครื่องมือความหน้าด้านจะหมดฤทธิ์ลง เพราะแพ้ทางการตีแผ่ความจริง โดยคณะราษฎรจะเป็นหัวหอกฉายความจริงพฤติการณ์ความไม่ชอบธรรมทั้งปวงของขบวนการสืบทอดอำนาจให้ได้ประจักษ์ รัฐบาลสืบทอดอำนาจอาศัยชายคาความมั่นคงที่เชื่อว่าเป็นจุดแข็งของตนเป็นเพิงคุ้มหัวมาตลอด แต่เวลานี้ความจริงได้เผยแล้วว่า ฝ่ายความมั่นคงที่เสมือนเข้มแข็งนั้นก็เพียงเพราะเขาใช้ความเป็นเผด็จการสังคมจึงตรวจสอบเขาไม่ได้
“แต่เมื่อเกิดเหตุภัยคุกคามใหม่คือโรคระบาดใหม่และโรคอุบัติซ้ำโควิด-19ขึ้น ความจริงก็เผยว่าฝ่ายความมั่นคงนั้นไม่ได้แข็งแรงไม่มีความพร้อมต่อการรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ แถมยังกลายเป็นต้นตอการระบาดเสียเอง แสดงถึงความหย่อนยานในการควบคุมชายแดน ปล่อยให้แรงงานข้ามชาติติดเชื้อโควิดลักลอบเข้ามาแพร่เชื้อในประเทศ กับปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนการพนัน จนนักพนันติดโควิดมาแพร่เชื้อสร้างวิกฤติไปค่อนประเทศ จุดแข็งภูมิคุ้มกันของนายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจเลยไม่หลงเหลือ ขณะเดียวกันที่คณะราษฎรเร่งเดินกลยุทธ์ประกาศแฉความจริงความเลวร้ายของผู้นำสืบทอดอำนาจให้เห็นเพิ่มอีก ซึ่งจะบวกเข้ากับข้อมูลการทุจริตที่สภาผู้แทนราษฎรจะแฉในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีที่กำลังจะเกิดขึ้น สัญญานขยับเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีเริ่มใกล้ความจริงเข้ามาทุกทีแล้ว” พล.ท.ภราดร กล่าว
