นิพนธ์ ย้ำ ต้องไม่ประมาททั้งอุบัติเหตุและโควิด ห่วงยอดการตายสูงกว่าปี 63 เกือบ 20 เปอร์เซ็นต์

นิพนธ์ ย้ำ ต้องไม่ประมาททั้งอุบัติเหตุและโควิด ห่วง ยอดการตายสูงกว่าปี 63 เกือบ 20% พร้อมเผยข้อมูลจาก สธ. เตรียมนัดถกหาทางแก้ไขรับมือช่วงเทศกาลสงกรานต์ และขอความร่วมมือในช่วงประชาชนทยอยเดินทางกลับ 1-2 วันนี้ เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น

เมื่อวันที่ 3 มกราคม นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปตรวจเยี่ยมจุดตรวจเพื่อป้องกันและและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ และด่านป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ 3 อำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบด้วย จุดตรวจดอยแคร์ อำเภอหัวไทร จุดตรวจชะเมา อำเภอเมือง และจุดตรวจอำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนายไกรศร วิศิษฐ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ และเมื่อช่วงเช้าได้มีการตรวจเยี่ยมในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ จังหวัดสงขลา อีกด้วย

นายนิพนธ์กล่าวว่า ครั้งนี้ได้มาเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่เนื่องในเทศกาลวันปีใหม่ซึ่งปีนี้เรามีสถานการณ์ทั้งการป้องกันการแพร่ระบาดของ covid-19 และดูแลความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของพี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมาในช่วงเทศกาล ซึ่งมีการนำรถออกมาใช้บนถนนจำนวนมากทำให้การจราจรคับคั่ง ซึ่งสถานการณ์ในปีนี้เมื่อมีสถานการณ์การระบาดของโควิดระบาดในรอบที่ 2 คาดว่าคนจะอยู่บ้านอุบัติเหตุจะน้อยลงแต่ว่าภาพรวม 5 วันอันตรายที่ผ่านมาสถานการณ์ไม่เป็นตามที่คาดการณ์ซึ่งปีนี้การสูญเสียมากขึ้นเกือบ 20% นั่นถือว่าอุบัติเหตุทำให้คนเสียชีวิตมากขึ้น

นายนิพนธ์กล่าวว่า จากตัวเลขปีที่แล้ว 5 วัน เราเสียชีวิตไป 272 ราย แต่ปีนี้เสียชีวิตไป 316 ราย ซึ่งต้องตรียมแผนแก้ไข และในปีนี้จังหวัดนครศรีธรรมราชมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจนถึงขณะนี้จำนวน 10 รายซึ่งเมื่อปีใหม่ 63 มีผู้เสียชีวิต 6 ราย เท่ากับเพิ่มเกือบ 100% จึงอยากจะฝากการบ้านให้ทาง ปภ.ดูว่าจะอบรมอย่างไร เรื่องการใช้รถใช้ถนนเพื่อลดการสูญเสียที่เกิดจากการขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด การดื่มแล้วขับ ทั้งสายหลักและสายรอง ซึ่งทำให้เกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น การเมาแล้วขับยังเป็นสาเหตุหลักอยู่ที่ก่อให้เกิดความสูญเสียจึงฝากเป็นประเด็นนี้เอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงเราต้องมีการปรับแผนกันว่าเทศกาลอย่างนี้หรือวันปกติจะทำอย่างไร โดยทุกฝ่ายต้องช่วยกัน

Advertisement

“สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ในช่วง 4-5 วันที่ผ่านมาที่เสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเรียบร้อย และขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนในช่วง 1-2 วันนี้เป็นช่วงที่มีการทยอยเดินทางกลับก็ขอให้เพิ่มความระมัดระวังเพราะอาจอ่อนเพลียเหนื่อยล้าจากการเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลปีใหม่มีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุและร่างกายเจ็บป่วยได้ง่าย อย่างไรก็ตามในนามรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย อยากขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ช่วยกันดูแลพี่น้องประชาชนในการใช้รถใช้ถนนและการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด” นายนิพนธ์กล่าว

นอกจากนี้ รมช.มท.ยังได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขได้รายงานสถานการณ์และการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการป้องกันและลดการบาดเจ็บจากการจราจรทางถนนในเทศกาลปีใหม่ 2564 กระทรวงสาธารณสุขได้เปิดเผยบทวิเคราะห์ที่ว่า แม้เทศกาลปีใหม่ 2564 อยู่ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งทำให้การเดินทางในช่วงเทศกาลใหม่มีจำนวนลดลง ทำให้จำนวนผู้บาดเจ็บเล็กน้อยลดลงร้อยละ 10.9 แต่ก็ทำให้การบังคับใช้กฎหมายมีข้อจำกัด ส่งผลให้ผู้ถูกดำเนินคดีลดลงร้อยละ 54.0 และทำให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุ การเสียชีวิตและการบาดเจ็บ admitted เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 17-19

นายนิพนธ์กล่าวว่า สอดคล้องกับข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า การใช้อุปกรณ์นิรภัยของผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียงร้อยละ 15.8 และแม้ว่าจะมีการสั่งการให้บังคับใช้กฎหมายเข้มงวด แต่ในเรื่องของการดื่มแล้วขับก็ยังพบว่าการดำเนินคดีมีจำนวนลดลงถึงร้อยละ 63.0 ทำให้การดื่มแล้วขับเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุถึงร้อยละ 36.2 และในผู้ขับขี่ที่บาดเจ็บที่ทราบผลการตรวจแอลกอฮอล์ในภาพรวม มีแอลกอฮอล์เกินกฎหมายกำหนดร้อยละ 49.0 และเป็นผู้ขับขี่ที่อายุน้อยกว่า 20 ปี มีแอลกอฮอล์เกินกฎหมายกำหนดถึงร้อยละ 31.4

Advertisement

“ทั้งนี้ ได้มีข้อเสนอแนะด้วยว่า 1.วันที่ 2-3 ม.ค.64 เป็นช่วงของการเดินทางกลับให้เดือนประชาชนและเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังการเมื่อยล้าซึ่งอาจทำให้เกิดการหลับในได้ โดยเพิ่มการประชาสัมพันธ์ผู้เดินทาง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 2.การใช้อุปกรณ์นิรภัยเป็นสิ่งสำคัญในการเดินทางทั้งโดยสารและขับขี่ 3.เน้นการบังคับใช้กฎหมาย เข้มงวดกวดขันวินัยจราจร ในเรื่องการขับรถเร็วควบคุมให้รถบนถนนไม่ขับเร็วหรือช้าจนเกินไป 4.ผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องเตือนประชาชนในชุมชนให้เพิ่มความระมัดระวังรถจากนอกพื้นที่สัญจรผ่านถนนทางหลักในพื้นที่ ซึ่งได้สอดคล้องกับสิ่งที่ตนได้เน้นย้ำมาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย” นายนิพนธ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image