‘ชูศักดิ์’ แจง ทักษิณมีสิทธิช่วยหาเสียง ไม่ใช่ครอบงำพรรค ยันจะดูแล พท.อย่างถึงที่สุด

‘ชูศักดิ์’ แจง ทักษิณมีสิทธิช่วยหาเสียง ไม่ใช่ครอบงำพรรค ยันว่าจะดูแลพรรคอย่างถึงที่สุด

เมื่อวันที่ 4 มกราคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ข้อความเป็นจดหมายช่วยหาเสียงให้กับนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ และต่อมาได้มีผู้ให้ข่าวทำนองว่าการกระทำดังกล่าวนั้นไม่อาจทำได้ เพราะมิได้เป็นผู้ช่วยหาเสียง และอาจเข้าข่ายเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทยอันจะนำไปสู่การยุบพรรคนั้น ว่า การที่จะพิจารณาว่าท่านอดีตนายกทักษิณ สามารถช่วยผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่หาเสียงได้หรือไม่ กับการพิจารณาว่าการกระทำของท่านอดีตนายกทักษิณ เป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำการดำเนินกิจการของพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น ต้องแยกพิจารณาออกจากกัน เนื่องจากเป็นคนละเรื่องและเป็นการใช้กฎหมายคนละฉบับกัน เมื่อดูจากระเบียบ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเห็นได้ว่าได้กำหนดเรื่องการหาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์กับเรื่องผู้ช่วยหาเสียงไว้คนละหมวดแยกจากกัน กรณีท่านอดีตนายกทักษิณเป็นการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์โดยบุคคลที่มิใช่ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ซึ่งระเบียบข้อ 11 และข้อ 12 ให้สามารถทำได้โดยไม่ต้องแจ้งการหาเสียงล่วงหน้า เมื่อดูจากระเบียบ กกต. แล้ว จะเห็นได้ว่าการที่ท่านอดีตนายกทักษิณ ได้โพสต์ข้อความเป็นจดหมายหรือการบันทึกภาพและเสียงในการช่วยผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่หาเสียงนั้น สามารถทำได้ และที่ทำก็ไม่อยู่ในลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงตามข้อ 22 และข้อ 23 ของระเบียบฉบับดังกล่าวแต่อย่างใด

นายชูศักดิ์กล่าวอีกว่า การดำเนินการของท่านอดีตนายกทักษิณ ก็ไม่ถือเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำพรรคเพื่อไทย เนื่องจากการดำเนินการเลือกตั้งนายก อบจ.นั้นเป็นกิจการที่ดำเนินการโดย กกต. มิใช่กิจการของพรรคการเมือง ปัญหาว่าการหาเสียงเลือกตั้งเรื่องใดทำได้หรือทำไม่ได้ จึงต้องพิจารณาจากกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นและระเบียบ กกต. มิได้นำกฎหมายพรรคการเมืองมาใช้บังคับ จะนำเอาเรื่องดังกล่าวมาเชื่อมโยงว่าเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำพรรคตามกฎหมายพรรคการเมืองมิได้ และข้อเท็จจริงก็เป็นเพียงการหาเสียงซึ่งบุคคลภายนอกไม่ว่าจะเป็นใครก็หาเสียงให้ผู้สมัครได้ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคแต่อย่างใด ว่าไปจริงๆแล้วเป็นเรื่องของท่านกับผู้สมัคร ไม่เกี่ยวกับพรรคเลย และก็ไม่ได้มีใครมาสั่งให้พรรคหรือกรรมการบริหารพรรคทำอะไรเลย

นายชูศักดิ์กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของพรรคนั้น หลังมีกรณีดังกล่าว ผู้บริหารของพรรคหลายท่านได้หารือร่วมกับฝ่ายกฎหมายโดยเห็นร่วมกันว่า การดำเนินการของท่านอดีตนายกทักษิณ เป็นการดำเนินการส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับพรรค ท่านก็ไม่เคยปรึกษาหารือหรือแจ้งให้กรรมการบริหารพรรคคนใดทราบเรื่องดังกล่าว พรรคจึงเห็นว่าการดำเนินการของท่านเป็นสิทธิของแต่ละบุคคลที่สามารถทำได้ตามระเบียบ กกต. จึงมิได้มีการแสดงออกใดๆ ในเรื่องดังกล่าว ข่าวที่ออกมาว่ามีการประชุมกรรมการบริหารและกรรมการบางท่านโต้แย้งคัดค้านเรื่องการหาเสียงดังกล่าวก็ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด แม้จะมีกรรมการบริหารพรรค 2 คน ลาออกเพราะเกรงว่าเรื่องดังกล่าวจะมีผลกระทบ ก็ไม่ว่าอะไรกัน เป็นสิทธิ ตนเข้าใจดีว่าหลายคนเป็นโรคกลัวการยุบพรรคจนขึ้นสมอง ไม่ได้ไล่เลียงองค์ประกอบของกฎหมาย ขณะนี้คณะกรรมการบริหารเหลืออยู่ 21 คนรวมทั้งตนเอง ยังมีองค์ประกอบครบถ้วน ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ดูแลพรรคอย่างถึงที่สุดต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image