ตรีชฏา เย้ย ‘ประยุทธ์’ ยิ่งตกยุคเมื่อส่ง ‘ธนกร’ ออกมาโต้ ชี้ ไม่เคยมองล่วงหน้า ไทยเลยยิ่งล้าหลัง

ตรีชฏา เย้ย ‘ประยุทธ์’ ยิ่งตกยุคเมื่อส่ง ‘ธนกร’ ออกมาโต้ ชี้ ไม่เคยมองล่วงหน้า ไทยเลยยิ่งล้าหลัง แนะ ทนอยู่ต่อไปก็จะยิ่งถ่วงความเจริญ

วันที่ 5 มกราคม นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ชี้ถึงการทำงานของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ส่อถึงความล้มเหลวครั้งใหญ่ เมื่อเจอสภาวะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยระลอกที่สอง ทั้งที่ประชาชนไม่ได้ก่อแต่กลายเป็นผู้รับสภาพกรรม

ตามที่ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ ได้ออกมาคาดการณ์ทางเศรษฐกิจปี 2564 ว่า ยากลำบาก และเสื่อมถอยหนัก และคนเป็นผู้นำต้องตามโลกให้ทัน แต่ พลเอกประยุทธ์ แทนที่จะปรับกรอบคิดของตัวเองให้ทันโลกทันเหตุการณ์ กลับส่ง นายธนกร วังบุญคงชนะ ออกมาโต้แบบมั่วๆ แถมมาการันตีว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้นำที่ก้าวทันโลกได้แน่ จะก้าวทันได้อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ เคยออกมายืนยันว่า ตนเองเป็นคนมีความจำดี มีสมอง 84,000 เซลล์ ทั้งที่ความจริงมนุษย์ต้องมีสมองกว่า 86,000 ล้านเซลล์ แล้วท่านจะไปตามใครทัน

นายธนกร ไม่เคยสนใจศึกษาอ่านเนื้อหาของ นายพิชัย ที่ออกมาแนะนำ นายพิชัย ไม่เคยคิดเรื่องการเอาชนะทางการเมือง แต่สนใจเรื่องความอยู่รอดและความเดือดร้อนเรื่องปัญหาปากท้องของประชาชนว่าจะอยู่รอดในปี 2564 อย่างไรต่างหาก ว่าควรเอาข้อมูลจริงมาให้ประชาชนรู้ตัว เตรียมตัวรับและตั้งตัวให้พร้อม พอถึงเวลาก็เหมือนเจอโรคโควิด บริหารแบบนี้รอวันเจ๊งทั้งประเทศ

ถาม นายธนกร ว่าใครปล่อยให้โควิดเข้ามาในประเทศไทย ปีที่แล้วใครปล่อยให้มีการจัดมวยที่สนามมวยลุมพินีจนมีการแพร่ระบาดของโรคจนต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใครปล่อยให้มีการติดเชื้อจากสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ใครปล่อยให้มีแรงงานต่างด้าวเข้ามาจังหวัดสมุทรสาครแบบผิดกฎหมาย ใครปล่อยให้มีบ่อนการพนันที่พัวพันกับคนในรัฐบาลจนเกิดการแพร่เชื้อระลอกสอง ประชาชนไม่ได้การ์ดตกแต่เราอยู่กับรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพ คนรับกรรมคือประชาชน ระลอกแรกสั่งล็อกดาวน์ ห้ามออกบ้านกลางคืน หยุดงาน ปิดกิจการ ปิดตลาดนัด หนี้สินเต็มตัว โดนยึดรถ ยึดบ้าน

Advertisement

เด็กนักเรียนหยุดเรียนต้องเรียนออนไลน์ ผู้ปกครองหยุดงานขาดรายได้ ต้องมานั่งดูลูกเรียน ระลอกสองประชาชนก็ไม่ได้การ์ดตก หนี้เก่ายังใช้ไม่หมด มีหนี้ใหม่เพิ่มอีก มาตรการช่วยเหลือไม่มี สิ่งที่รัฐบาลต้องทำอันดับแรก คือ ต้องออกกฎหมายช่วยประชาชนหยุดการชำระหนี้จากธนาคารระยะหนึ่ง ไม่ใช่แค่พักการชำระหนี้ เพราะคนไม่มีรายได้จะเอาเงินที่ไหนไปชำระหนี้ และต้องขอความร่วมมือให้โรงเรียนเอกชนลดค่าเทอมช่วยผู้ปกครอง หันมาดูคนในรัฐบาลมีเงินเดือนครบทุกเดือนจากภาษีประชาชน แต่เจ้าของเงินภาษีอยู่ในสภาพเลือดตากระเด็น

ความจริง นายธนกร ต้องไปแนะนำ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ทำตามคำแนะนำของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บอกให้คนไทยใช้วิธีการป้องกันไม่ใช่การควบคุม เพราะเชื้อโรคมันเหนือการควบคุมไม่เลือกฐานะ อาชีพ แต่ถ้าให้ความรู้ดีๆ กับประชาชนคนจะไม่ตกใจ เข้าใจและป้องกันตัวเองได้ ปรับตัวทำมาหากินได้ อยู่รอดกับโรคได้ โรคก็สำคัญความอยู่รอดของประชาชนก็สำคัญ ต้องเดินควบคู่กัน นายธนกร พูดเรื่อง การเยียวยา การกู้มาแจก และสร้างหนี้สาธารณะเพิ่มอีกมาก แต่ไม่ได้บอกว่าประเทศไทยจะก้าวหน้าต่อไปอย่างไร จะแก้ไข การลงทุน และ การส่งออก ที่ย่ำแย่ได้อย่างไร

ถ้าเข้าใจว่าการปรับแพลตฟอร์มของระบบราชการ หรือ digitalization คือ แค่โครงการบัตรคนจน โครงการคนละครึ่ง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน รวมถึงโครงการชิม ช็อป ใช้ แสดงว่า นายธนกร ไม่รู้เรื่องเลย และ อยากให้กลับไปทำการบ้านมาใหม่ รัฐบาลเองก็ออกมายอมรับว่าทุกโครงการพบว่ามีการทุจริต ถึงขั้นที่ขึ้นคำเตือนที่เวบไซต์โครงการและการแถลงข่าวของรัฐบาลเอง นอกจากนี้ยังขาดมิติในการมองไปในอนาคต การพูดว่า หนี้สาธารณะปัจจุบันเพียง 50.3 % แต่ไม่ได้มองว่าในอนาคตรัฐบาลต้องก่อหนี้เพิ่มขึ้นอีกมาก ทั้งงบประมาณขาดดุลปีหน้าอีก 6.5 แสนล้าน เงินกู้ช่วยโควิดจำนวน 1 ล้านล้านที่เพิ่งใช้ไปเพียง ครึ่งหนึ่ง การเก็บภาษีที่ขาดไปประมาณ 300,000 ล้านบาท และ จีดีพี ที่จะติดลบ จะทำให้หนี้สาธารณะของประเทศ ทะลุเกิน 60 %

Advertisement

“หนี้ครัวเรือนที่บอกว่ายังไม่ถึง 90% แต่อยู่ที่ 86.6% แต่ไม่ได้มองว่าพอประกาศจีดีพีที่ติดลบ จะทำให้หนี้ครัวเรือนทะลุ 90% ทันที และหนี้ประชาชนก็จะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ คนลำบากกันมาก ตอนนี้ครัวเรือนอาจรู้สึกว่าหนี้ทะลุ 100 กว่า % แน่นอน เพราะไม่มีรายได้ มีแต่รายจ่าย เศรษฐกิจแย่มาตั้งแต่ พลเอกประยุทธ์ ปฏิวัติ รัฐบาลมีทางแก้ไขไหม ทำไมประชาชนถึงพากันหมดหวัง นายธนกร มีแต่ออกมาขอโอกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ ทำงาน และยังออกมายืนยันว่า รัฐบาลฟื้นเศรษฐกิจได้แน่ เพียงแต่ต้องใช้เวลา

ที่ผ่านมาเวลา 6-7 ปียังไม่พอหรือสำหรับเวลาของรัฐบาลที่มีนายกรัฐมนตรีชื่อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอนไม่มีโควิด คุณสมคิด จตุศรีพิทักษ์บอกปี 2561 คนจนจะหมดจากประเทศไทย ผ่านปี2563 ปีนี้ปี2564 คนจนหมดแล้วหรือยัง หันไปมองน้ำตาคนยากจนในเวลานี้บ้างมันมีเลือดผสมน้ำตาไหลไม่หยุด โอกาสลงที่สวยงามของรัฐบาลแล้ว ลาออกถอยออกไป เพื่อรักษาชีวิตของประชาชนให้รอด อย่าปล่อยประชาชนอยู่ตามยถากรรมเลย” นางสาวตรีชฎา กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image