โรม ชี้ สภางดประชุม แต่กมธ.ต้องทำงานต่อให้ได้ แก้รธน.ใกล้ครบเวลา คืบหน้าไม่ถึง20%

โรม ชี้ สภางดประชุม แต่กมธ.ต้องทำงานต่อให้ได้ แก้รธน.ใกล้ครบเวลา คืบหน้าแค่ 20% 

วันนี้ (5 ม.ค.) นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อเขียนเรื่อง  “มติสภาไม่ห้าม กมธ. จัดประชุม ก็ต้องจัดประชุมให้ได้ พี่น้องประชาชนยังรอให้ช่วยแก้ปัญหา”  ผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า

“สืบเนื่องจากที่เมื่อวานนี้ (4 มกราคม 2564) มีการประชุมร่วมระหว่างประธานรัฐสภา, วิป 3 ฝ่าย และตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ ได้ข้อสรุปว่าให้เลื่อนการประชุมสภาออกไป 2 สัปดาห์ เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 แต่ในส่วนของการประชุมคณะกรรมาธิการและอนุกรรมาธิการนั้นยังสามารถประชุมได้อยู่ โดยให้ควบคุมการประชุมไม่ให้เสี่ยงต่อการติดโรค เช่น ไม่นำคนนอกหรือที่ปรึกษาเข้ามานั้น

“ผมยังขอยืนยันตามที่ได้โพสต์ไปก่อนหน้านี้ว่า งานสภานั้นจำเป็นต้องดำเนินต่อไปภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาด แม้ว่าที่ประชุมข้างต้นจะมีมติให้เลื่อนการประชุมสภาออกไปแล้ว แต่หากยังอนุญาตให้มีการประชุมคณะกรรมาธิการอยู่ ผมก็เห็นว่า ต้องจัดการประชุมให้ได้ เพราะจากประสบการณ์ของผมในฐานะกรรมาธิการพบว่า ปริมาณงานมักจะมีมากกว่าปริมาณเวลาเสมอ

“ผมขอยกตัวอย่างคณะกรรมาธิการที่ผมได้เข้าร่วม คือคณะกรรมาธิการแก้รัฐธรรมนูญ ที่เคยกำหนดกรอบเวลาเบื้องต้นว่า จะให้เสร็จสิ้นภายใน 45 วัน หรือภายในวันที่ 8 มกราคม 2564 แต่จนถึงตอนนี้ที่เกือบครบ 45 วันที่ว่าแล้ว มีการประชุมไปเพียง 5 ครั้ง ยังพิจารณาเนื้อหาส่วนของการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญไม่จบเลย และยังไม่เริ่มเนื้อหาส่วนของการตั้ง ส.ส.ร. ด้วยซ้ำ ถ้าให้ผมประเมินแล้วเท่ากับมีความคืบหน้าไม่ถึง 20% เท่านั้น หากจะเลื่อนไปอีก 2 สัปดาห์ก็เท่ากับขาดการประชุมไปอีก 4 ครั้ง ซึ่งอย่างที่ผมบอกไปแล้วว่ายิ่งล้าช้ามากเท่าไร ประชาชนก็ยิ่งต้องรับผลร้ายจากรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 นานขึ้นเท่านั้น

Advertisement

“อีกคณะกรรมาธิการหนึ่งที่ผมเป็นกรรมาธิการอยู่ คือคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ซึ่งที่ผ่านมารับพิจารณาในสารพัดกรณี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคุกคามและดำเนินคดีผู้แสดงความคิดเห็นหรือชุมนุมทางการเมือง, การละเมิดสิทธิในพื้นที่ชายแดนภาคใต้, การกำหนดเงื่อนไข Fit to Fly ของคนไทยในต่างแดนที่ต้องการกลับประเทศ หรือแม้กระทั่งกรณีสิทธิในที่ดินทำกินในพื้นที่ต่างๆ เรียกได้ว่าครอบคลุมประชาชนหลายภาคส่วนในปัญหาหลายประเด็น และในทุกวันนี้แม้จะมีการประชุมทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่าย แต่ก็ยังมีเรื่องค้างพิจารณาอยู่อีกเป็นนับร้อยกรณี

“ผมจึงขอฝากไปยังประธานคณะกรรมาธิการทั้งสองคณะ ได้แก่คุณวิรัช รัตนเศรษฐ และคุณสิระ เจนจาคะ ซึ่งมีอำนาจสั่งการได้เองว่าจะให้มีการประชุมของแต่ละคณะหรือไม่ ทั้งสองท่านกับผมทำงานอยู่ด้วยกันก็คงจะเห็นถึงปัญหาอย่างที่ผมได้กล่าวไปข้างต้น ดังนั้นใช้ดุลพินิจที่ท่านมีตัดสินใจให้ถูกต้องเหมาะสมเพื่อประโยชน์ของประชาชนด้วย เพราะในประเทศเรานั้นยังมีปัญหาอีกมากมายที่รอการแก้ไข มีประชาชนอีกมากมายที่รอผู้แทนราษฎรอย่างพวกเราไปเป็นปากเป็นเสียงให้ ผมเห็นว่าการจัดประชุมคณะกรรมาธิการโดยลดความเสี่ยงนั้นเป็นไปได้ เช่น ไม่ให้ที่ปรึกษาหรือผู้ติดตามเข้าประชุมจนแออัด หรือจัดหาห้องประชุมที่เว้นระยะห่างได้มากขึ้น เป็นต้น

“อย่าให้ความทุกร้อนของประชาชนต้องถูกประวิงเวลาออกไปเพียงเพราะความไม่สะดวกใจของ ส.ส. หรือ ส.ว. บางคน มาร่วมกันหาวิธีการที่พวกเราจะยังคงทำงานได้ภายใต้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นดีกว่าครับ”

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image