“วินสตัน เชอร์ชิล” รัฐบุรุษของอังกฤษ เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย เป็นคนที่ไต่บันไดชีวิตขึ้นมาด้วยความรู้และความสามารถ
ชีวิตของเชอร์ชิล ผ่านการเป็นทหาร ผ่านสนามรบจริง เป็นคนที่รักการค้นคว้า สนใจประวัติศาสตร์ ชอบคิดชอบเขียน และมีผลงานเขียนจนได้รับ “รางวัลโนเบล” สาขาวรรณกรรม
ต่อมาเมื่อฝักใฝ่การเมือง เส้นทางการเมืองของ “เชอร์ชิล” ก็ไม่ได้โรยด้วยกระสุนปืนและรถถัง หากแต่ได้เข้าสังกัดพรรคการเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้ง ได้รับการเลือกตั้ง ได้ใช้ความรู้ความสามารถทำหน้าที่ผ่านตำแหน่งต่างๆ มากมาย จนได้รับการยกย่องว่า เป็นบุคคลสำคัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์อังกฤษ
ยิ่งเมื่ออยู่ในสถานการณ์สู้รบของสงครามโลกครั้งที่ 2 “วินสตัน เชอร์ชิล” ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงภาวะผู้นำแห่งฝ่ายสัมพันธมิตร จนโลกต้องจารึก
ครั้งที่ “ฮิตเลอร์” ออกแนวรุกรานชัดแจ้งด้วยการบุกยึดโปแลนด์ในเดือนกันยายน ค.ศ.1939 นั้นนายกรัฐมนตรี “แชมเบอร์เลน” ของสหราชอาณาจักรกับฝรั่งเศสยื่นคำขาดให้เยอรมนีถอนทหารทันที
แต่เยอรมนีไม่สน
ฮิตเลอร์ยังคงเดินหน้าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และจัดการกับดินแดนโปแลนด์พร้อมกับบุกยึดไล่ไปตั้งแต่ เดนมาร์ก นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก เบลเยียม สโลวีเนีย โบฮีเมีย โมราเวีย อัลซาซ-ลอเรนซ์ ออสเตรีย เตรียมสถาปนา “จักรวรรดิเยอรมันไรซ์”
จนล่วงผ่านไป 8 เดือนแล้ว อังกฤษกับฝรั่งเศสก็ยังไม่มีทีท่าจะทำอะไรกับเยอรมันได้ ในที่สุดเดือนพฤษภาคม 1940 “แชมเบอร์เลน” ก็ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร
“วินสตัน เชอร์ชิล” ได้รับเลือกให้ขึ้นแทน
เดือนต่อมา “ฮิตเลอร์” ผนึกกำลังกับ “มุสโสลินี” แห่งอิตาลีบุกยึดฝรั่งเศสสำเร็จ พร้อมกันนั้นกองทัพอากาศเยอรมนีก็ถล่มกรุงลอนดอน
“เชอร์ชิล” ปลุกคนอังกฤษที่ขวัญตกให้ลุกขึ้นต้าน “นาซี” พร้อมกับเป็นแกนนำฝ่ายสัมพันธมิตรเปิดฉากสู้รบกับฝ่ายอักษะอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกที่ “สมรภูมิดันเคิร์ก” เมืองท่าทางตอนเหนือของฝรั่งเศส
การนั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีระหว่างปี 1940-1945 ของ “วินสตัน เชอร์ชิล” นั้นไม่ได้มาจากการช่วงชิงด้วยอาวุธและกำลังรบ
“เชอร์ชิล” เป็นนายกรัฐมนตรีได้ด้วยมันสมองและสองมือที่มีความรู้กับความสามารถ ปฏิบัติตามครรลองคลองธรรมของพลเมืองดีที่เคารพกฎหมาย
จะเทียบชั้นกับใครก็จะต้องพิจารณาคุณสมบัติ ศึกษาภูมิหลัง ชั่งน้ำหนักความเหมาะควร
ไม่ควรพลั้งพล่อยเป็นขุนพลอยพยัก !?!!