วิเคราะห์ : โควิด รอบใหม่ บั่นทอน เครดิต เขย่า รัฐบาล

โรคโควิด-19 ระบาดรอบใหม่ในประเทศไทยกลายเป็นเรื่องเขย่ารัฐบาลไปแล้ว

ประการแรก เขย่ารัฐบาลในการควบคุมการระบาดอีกครั้ง

ประการที่สอง เขย่ารัฐบาลที่จะต้องเยียวยาปัญหาทางเศรษฐกิจอีกระลอก

ประการที่สาม เขย่ารัฐบาลเพราะต้นตอของการระบาดถูกนำไปโยงใยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล

Advertisement

ทุกประการที่ปรากฏ ล้วนท้าทายฝีมือของ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งสิ้น

โดยในประการแรก สถานการณ์การระบาดของโรคที่เริ่มต้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เดิมทีกำหนดเวลาวันที่ 3 มกราคม หรือครบ 14 วัน หลังจากการควบคุม

หวังว่าสถานการณ์การระบาดจะดีขึ้น

Advertisement

แต่ปรากฏว่าการระบาดในจังหวัดสมุทรสาคร ณ บัดนี้ยังคงมีอยู่ และยังคงต้องสืบค้นตรวจหาเชื้อกันต่อไป

ขณะเดียวกัน จังหวัดที่อยู่นอกเหนือจากจังหวัดสมุทรสาครได้กลายเป็น “คลัสเตอร์ใหม่” ของการแพร่โรค

โดยเฉพาะจังหวัดภาคตะวันออกที่การแพร่ระบาดเกิดจากบ่อนการพนัน

เพิ่มอัตราการระบาด จาก 1 จังหวัด เป็น 9 จังหวัด ขยายเป็น 28 จังหวัด

กระทั่งในขณะนี้จังหวัดที่มีการระบาดมีมากกว่า 50 จังหวัดแล้ว

ประการที่สอง คือ ปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวโยงกับระยะเวลาการระบาดของโรค เนื่องจากการควบคุมการระบาดจำเป็นต้องจำกัดพื้นที่ จำกัดเวลา ลดการพบปะสังสรรค์
และอื่นๆ

ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดผลกระทบ ประชาชนต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ร้านค้าต้องจำกัดเวลาบริการ บางธุรกิจต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว

มีผลกระทบถึงรายได้ นายจ้าง ลูกจ้าง ต้องปรับตัวรับมือกับสถานการณ์รายได้ถดถอยอีกครั้ง

แต่เดิมรัฐบาลวางมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เมื่อการระบาดรอบใหม่เกิดขึ้น รัฐบาลจำเป็นต้องพิจารณามาตรการเยียวยาใหม่อีกครั้ง

ขณะที่มีการใช้งบประมาณเมื่อปี 2563 เพื่อควบคุมการระบาดไปมากแล้ว รายได้ของรัฐบาลลดน้อยถอยลง

ในปี 2564 รัฐบาลจำเป็นต้องมีงบประมาณเพื่อใช้ในการนี้อีกครั้ง ย่อมทำให้รัฐบาลต้องทำงานหนักขึ้น

ปัญหาเศรษฐกิจในปีเดิม ผนวกรวมกับปัญหาเศรษฐกิจในปีใหม่

ปัญหาประชาชนขาดรายได้ เริ่มเขย่าศรัทธา

ประการที่สาม ถือว่าเป็นปัญหาใหม่ของรัฐบาลที่ต้องเผชิญหน้าภายหลังจากเกิดการระบาดรอบใหม่

นั่นคือ การผูกโยงธุรกิจบ่อนการพนันกับรัฐบาล

รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ด้วย

ทั้งนี้เพราะการระบาดรอบใหม่ที่กระจายไปทั่วประเทศ ต้นตอของการระบาดเกิดจากธุรกิจมืด

ด้านหนึ่งเกิดขึ้นจากขบวนการลักลอบนำแรงงานต่างชาติเข้าประเทศ

เจ้าหน้าที่การ์ดตก เกิดความหละหลวมในการตรวจโรคโควิด-19 กระทั่งผู้ติดเชื้อเข้ามากระจายเชื้อในที่พักและที่ทำงาน

เกิดเป็นการระบาดรอบใหม่

ด้านหนึ่งเกิดขึ้นจากบ่อนการพนันที่ก่อตัวเป็นขบวนการหาผลประโยชน์ทางจังหวัดภาคตะวันออก

มีเจ้าหน้าที่รัฐ และนักการเมืองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง

ข้อมูลข่าวสารดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว กระทั่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จากเดิมที่ปฏิเสธเรื่องความมีอยู่ของบ่อน ต้องกลับมาชี้แจง และสั่งการให้ปราบปราม

เกิดการย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง และย้ายนายอำเภอ

โทษฐานละเลยปล่อยพื้นที่ให้มีบ่อน

ปัญหาเรื่องขบวนการลักลอบนำเข้าแรงงานต่างชาติ และบ่อนการพนัน กลายเป็นประเด็นใหม่ที่พรรคฝ่ายค้านมองเห็นว่าควรจะนำมาเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ

แม้ขณะนี้รัฐสภาจะเลื่อนการประชุมออกไป 2 สัปดาห์ แต่พรรคฝ่ายค้านก็เตรียมยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจอีกครั้ง

ยื่นภายในเดือนมกราคม ขออภิปรายไม่ไว้วางใจภายในเดือนกุมภาพันธ์

ประเด็นที่แย้มออกมาแล้วนั่นคือ การบริหารราชการในสถานการณ์โควิด-19 ที่ล้มเหลว

และเชื่อว่าในประเด็นการ “ถล่ม” ย่อมมีเรื่อง “บ่อนการพนัน” รวมถึงขบวนการโยงใยที่จะพาดพิงไปถึง พล.อ.ประยุทธ์

แม้เกมในสภา แม้จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจกี่ครั้ง แต่ในที่สุดหากรัฐบาลควบคุมเสียงข้างมากได้ รัฐบาลย่อมดำรงอยู่ได้

ในสมัยประชุมสภาครั้งนี้ พรรคร่วมรัฐบาลมีจำนวนเสียงสนับสนุนล้นหลาม

ดังนั้น หากพรรคฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ โอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาลจะได้รับเสียงสนับสนุนจากฝ่ายรัฐบาลอย่างท่วมท้นย่อมเป็นไปได้สูง

แต่อย่าลืมว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่ละครั้ง มีการถ่ายทอดผ่านสื่อทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ และออนไลน์

ข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะกระพือผ่านสื่อสมัยใหม่อย่างรวดเร็ว

หากข้อมูลของพรรคฝ่ายค้านโดนใจประชาชน ย่อมบั่นทอนความเชื่อมั่นในตัวฝ่ายบริหาร

โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี

น่าสังเกตว่า การบริหารจัดการการระบาดรอบใหม่นี้ เครดิตของรัฐบาลได้รับผลกระทบอย่างมาก

เมื่อรัฐบาลผลักดันมาตรการเข้มงวด ประชาชนเริ่มแสดงท่าทีคัดค้านออกมา

เมื่อมีผู้เสนอล็อกดาวน์ประเทศอีกรอบ บรรดาเอกชนที่ได้รับผลกระทบออกมาต้าน

เมื่อรัฐบาลออกมายืนยันว่า ไม่มีบ่อนการพนัน ข้อมูลอีกฟากหนึ่งก็ปรากฏออกมาพิสูจน์ว่า ประเทศไทยมีบ่อนการพนันมากมาย

เมื่อกรุงเทพมหานครประกาศให้ “ซื้ออาหารกลับบ้าน” ตั้งแต่เวลา 1 ทุ่ม พล.อ.ประยุทธ์ต้องออกมาผ่อนปรน ให้ซื้ออาหารกลับบ้านตั้งแต่ 3 ทุ่ม

เมื่อรัฐบาลยืนยันว่ามีงบประมาณรับมือกับโรคโควิด-19 ประชาชนเริ่มถามหาความชัดเจน

เมื่อเกิดการปลุกเร้าให้ใช้แอพพ์ “หมอชนะ” ถ้าไม่ใช้ผิดกฎหมาย เสียงไม่เอาด้วยก็ดังกระหึ่ม

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นคือสัญญาณบ่งบอกความศรัทธาที่ลดน้อยลง

บ่งบอกความขลังของรัฐบาลที่ถดถอย

ความศรัทธาคือจุดเปราะบางที่กระทบต่อรัฐบาล

เป็นผลกระทบต่อรัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ที่รุนแรงกว่าเสียงโหวตในสภา

เรื่องเช่นนี้อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลาในปีนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image