ไม่ว่า ปัญหาว่าด้วยการเล็ดลอดเข้ามาแล้วแพร่ไวรัส โควิด-19 ของแรงงานข้ามชาติจำนวนเป็นแสน ไม่ว่าปัญหาการกระจายและขยาย จำนวนคนติดเชื้อผ่าน ”บ่อน”
ล้วนเป็นผลสะเทือนจากการแพร่เข้ามาของไวรัส โควิด-19 ทั้งจากภายนอกประเทศ ทั้งจากภายในประเทศ
คำถามก็คือ หากไม่มีการทะลวงเข้ามาของไวรัส โควิด-19 จะเกิดการขุดคุ้ยเงื่อนงำและรายละเอียดของแรงงานข้ามชาติหรือไม่ หากไม่มีการทะลวงเข้ามาของไวรัส โควิด-19 จะมีปมสงสัยในการดำรงอยู่ของบ่อนหรือไม่
อาจจะมีแต่ก็มีเหมือนกับเป็นเรื่องปรกติและธรรมดา เหมือนกับการดำรงอยู่ของการค้าประเวณี เหมือนกับการดำรงอยู่ของการค้ายาเสพติด
ไม่มีคำถามถึงความเสมอต้นเสมอปลายในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ไม่มีกระแสเรียกร้องเร่งเร้าจากสังคม
ทั้งหมดนี้จึงต้องยอมรับในผลสะเทือนของ ”ไวรัสโควิด-19”
จากสภาพความเป็นจริง การเข้ามาของไวรัส โควิด-19 สร้างปัญหาก่อความทุกข์ยากให้กับประชาชน ไม่ว่าโดยตรงคือติดเชื้อ ไม่ว่าโดย อ้อมจากมาตรการเข้มที่ออกมาในแต่ละพื้นที่
กระนั้น ในอีกด้านภายในความทุกข์แค้นลำเค็ญนั้นปัญหาอันเกิดขึ้นและดำรงอยู่ก็ได้รับการโหมกระพือขึ้น
สังคมได้รับรู้ว่าเหตุใดในกลุ่มแรงงานข้ามชาติจึงได้กลายเป็นพื้นที่เสี่ยง สาเหตุมาจากความจำเป็นต้องใช้แรงงานจากต่างชาติและส่วนใหญ่ก็เป็นการเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย
คำถามก็คือ ในเมื่อเป็นการผิดกฎหมายเหตุใดจึงมีแรงงานาข้ามชาติมากเป็นแสนในพื้นที่ชายทะเลภาคตะวันออก
ยิ่งกว่านั้น เมื่อการแพร่กระจายของไวรัสได้ขยายออกไปอย่าง กว้างขวางบ่อนคือพื้นที่เปราะบางและเสี่ยงเป็นอย่างยิ่ง สังคมจึงให้ ความสนใจต่อการดำรงอยู่ของบ่อน
ไม่ว่าการเข้ามาของ ”แรงงานข้ามชาติ” ไม่ว่าการดำรงอยู่ของ ”บ่อน” จึงสัมพันธ์กับการทุจริต สัมพันธ์กับการเสียเงินใต้โต๊ะ
หากเป็นรัฐบาลที่แอบอิงอยู่กับประชาชน ได้รับเลือกมาจากประชาชนอย่างแท้จริง สภาพการณ์เหล่านี้ย่อมเป็นเงื่อนไขอันดีในการปฏิรูป ในการแก้ไขปัญหาอันเป็นรากฐานที่แท้จริง
แต่หากเป็นรัฐบาลที่มิได้มีรากฐานมาจากการเลือกจากประชาชน ปัญหาเหล่านี้ก็จะถูกกลบลบทิ้ง
เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น