สถานีคิดเลขที่ 12 : สัปดาห์แรกของปีใหม่

ประเทศไทยผ่านพ้น “ปีใหม่” ไปแล้วกว่าหนึ่งสัปดาห์ ด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ค่อนข้างหดหู่และ “ไม่ใหม่” สักเท่าไหร่

เพราะการกลับมาแพร่ระบาดรอบใหม่ของ “โควิด-19” ได้ส่งผลให้กิจกรรมต่างๆ ของผู้คนในสังคมต้องหยุดชะงักลง ไล่ตั้งแต่กิจกรรมสันทนาการงานรื่นเริง จนถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจนานาประเภท

ขณะเดียวกัน เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ก็ยังมีสถานะเป็นดัชนีชี้วัดตัวเดิม ที่แสดงให้สังคมได้ตระหนักถึงศักยภาพในการจัดการปัญหาเร่งด่วน หรืออย่างน้อยที่สุด คือ การสื่อสารกับสาธารณชน ของรัฐบาล

ซึ่งต้องบอกว่ายังทำได้ไม่ดี ไม่มีความเป็นเอกภาพ สับสนปนเป และขัดแย้งกันเองอยู่บ่อยครั้งในหลากหลายกรณี (ถ้าพูดด้วยภาษาคอนิยายจีนกำลังภายใน ก็ต้องบอกว่าเป็นเคล็ดวิชา “สองมือขัดแย้ง/สองมือพันตู” ของ “เฒ่าทารก จิวแป๊ะทง” ในกระบวนท่าที่ค่อนข้าง “มั่ว”)

Advertisement

ยิ่งกว่านั้น เรายังพบเห็นการบริหารงานของภาครัฐที่ไม่มีดุลยภาพอยู่มากมายเช่น เราพบมาตรการควบคุมวิถีชีวิตของประชาชนในบางพื้นที่อย่างเข้มข้น แต่ในบางกรณี เจ้าหน้าที่รัฐซึ่งควรต้องรับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่อย่างบกพร่องจนนำมาสู่การแพร่ระบาดรอบใหม่ก็ลอยนวลพ้นผิดไปเฉยๆ

เราพบแนวโน้มการใช้มาตรการ “ยา (เกือบ) แรง” รอบใหม่ แต่กลับยังไม่พบมาตรการ “เยียวยา” เพิ่มเติมที่ชัดเจน

หลายคนอาจเริ่มตั้งคำถามว่านโยบายกำหนด “วันหยุด” ไว้มากมายในปี 2564 เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนออกไปบริโภคหรือจับจ่ายใช้สอย จะยัง “เวิร์ก” อยู่หรือไม่? ในบริบท “โควิดรอบสอง” ท่ามกลางปัญหาการว่างงานที่อาจหนักหนาสาหัสขึ้นเรื่อยๆ

Advertisement

ดังนั้น การที่นักการเมืองฝ่ายค้านจำนวนหนึ่งเรียกร้องให้สมาชิก ครม.บางท่าน ออกมาแสดงบทบาทของตนเองมากกว่านี้ จึงอาจมิได้บ่งชี้ถึงภาวะ “หายตัว” หรือความบกพร่องต่อหน้าที่ของรัฐมนตรีท่านนั้นเสียทีเดียว

หากเป็นการคาดหวังถึงคำชี้แจงอันเป็นระบบและมีแผนงานเด่นชัดจากคนที่ทำงานอยู่จริงๆ ซึ่งน่าจะบรรยายถึงปัญหาต่างๆ และหนทางแก้ไขปัญหาได้ดีกว่าคนที่ออกมาพูดจาสื่อสารเป็นประจำ

นอกจากนี้ “โควิด-19” รอบใหม่ ยังคลี่เผยให้เห็นถึงปัญหาด้านมืดที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้ใต้พรมตลอดมา จากปัญหาการลักลอบอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย มาสู่การดำรงอยู่ของบ่อนการพนันนอกกฎหมาย จนส่งผลให้มีการโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับสูงโดยต่อเนื่อง

ด้วยสภาวการณ์เช่นนี้ จึงไม่มีใครมองออกว่าประเทศไทยในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า (และอีก 11 เดือนที่เหลือ) จะดำเนินไปในทิศทางเช่นไร?

ภาครัฐและเอกชนจะต้องรีเซต/รีสตาร์ตเศรษฐกิจกันใหม่อีกรอบหลังปัญหา “โควิดรอบใหม่” ซาลง?

รัฐบาล (ที่อยู่ยงคงกะพันไปได้เรื่อยๆ แบบ “คนดีไม่มีวันตาย”) จะถูกเปิดแผลใหม่ๆ อีกกี่รอย? และสร้างความอึดอัดใจให้แก่ประชาชนจำนวนไม่น้อยอีกมากเท่าไหร่?

ม็อบราษฎรที่ยังไม่ได้รับการสนองตอบใดๆ จากผู้มีอำนาจ (นอกจากการถูกดำเนินคดี) จะหวนคืนสู่ท้องถนนอีกครั้ง ในปริมาณ รูปแบบ และเนื้อหาใหม่ๆ?

และสังคมไทยยังคงแตกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนเดิม โดยที่โครงสร้างทางการเมืองยุคปัจจุบันตกอยู่ในอาการ “อัมพาต” จนรับมือปัญหาใดๆ ไม่ได้?

เพียงแค่ “โควิด-19” เรื่องเดียว ก็สามารถหยุดเวลา หยุดความคาดหวัง หยุดวิสัยทัศน์ของผู้คนในประเทศ ณ ช่วงเริ่มต้นปีใหม่ 2564 ได้อย่างชะงัด

ปราปต์ บุนปาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image