วันนี้ “บิ๊กตู่” แจงแนวจัดงบปี 65 -ลุ้น “คนละครึ่ง” อีก1.6 ล้านคน-ธุรกิจท่องเที่ยวร้องช่วย “พักหนี้” ด่วน
วันที่ 11 มกราคม เวลา 08.30-09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2565 ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) และ Facebook : Live NBT2HD
ขณะที่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ร้องขอให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือโดยด่วน เนื่องจากได้รับผลกระทบหนักจากการแพร่ระบาดโควิดรอบใหม่
เมื่อวันที่ 10 มกราคม นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะมอบนโยบายและชี้แจงแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 วงเงิน 3,100,000 ล้านบาท ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) และ Facebook : Live NBT2HD วันที่ 11 มกราคม 2564 เวลา 08.30-09.00 น. โดยมีนายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ร่วมพูดคุย
นายอนุชากล่าวว่า โดยจะมีไฮไลท์เรื่องการใช้จ่ายงบประมาณต้องตอบโจทย์ภารกิจเร่งด่วน คือ สร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจภายในประเทศ ยกระดับขีดความสามารถของประเทศส่งเสริมอุตสาหกรรมและการบริการทางการแพทย์การท่องเที่ยว พัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิตของคน เพื่อขับเคลื่อนประเทศผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 และให้เศรษฐกิจไทยกลับมาเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงินสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการคนละครึ่ง ขณะนี้มีผู้ใช้สิทธิเข้าร่วมโครงการแล้ว 2 ล้านสิทธิ พบว่า ยังมีจำนวนผู้ที่ไม่ได้สิทธิอีกประมาณ 1.6 ล้านสิทธิ เนื่องจากลงทะเบียนแล้วกรอกข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือไม่ได้ใช้เงินภายในจำนวนวันที่กำหนดไว้ ซึ่งกระทรวงการคลัง จะประเมินการใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งอีกครั้งภายในวันที่ 14-15 มกราคมนี้ ตามที่กำหนดการใช้สิทธิไว้ หลังจากนั้นจะรู้ตัวเลขผู้ที่ยังไม่ใช้สิทธิว่าเหลือจำนวนเท่าใด แล้วนำสิทธิจำนวนที่เหลือ เปิดให้ลงทะเบียนใหม่ในรอบเก็บตก ซึ่งอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้อีก หลังประเมินตัวเลขทั้งหมดชัดเจนแล้ว
ด้านนายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า สทท.รวบรวมข้อเสนอของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวทั้งระบบ เตรียมเสนอให้รัฐบาล พิจารณาแนวทางช่วยเหลือหลังการระบาดของโควิด-19 อีกระลอก อาทิ ขอให้รัฐบาลสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนา เพื่อพัฒนาทักษะให้กับธุรกิจท่องเที่ยวในทุกๆ สาขา ช่วยให้พนักงานมีรายได้จากการฝึกอบรมสัมมนา ให้ภาคครัฐดึงผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวทุกสาขาเข้าไปร่วมในโครงการเราเที่ยวด้วยกันให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะในรายเล็กๆ และขอให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดแคมเปญกระตุ้นตลาดไทยเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมหาทางช่วยเหลือกลุ่มรถโดยสารท่องเที่ยว ที่ขณะนี้ต้องจอดนิ่งๆ ด้วย
“สิ่งที่อยากได้มากที่สุด คือ ช่วยลดค่าใช้จ่าย อาทิ ขอให้สถาบันการเงินพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบธุรกิจในภาคการท่องเที่ยวต่อไปอีก 6 เดือนหรือ 1 ปี หรือจนกว่าสถานการณ์จะกลับมาดีขึ้น สมาชิกจำนวนมากเรียกร้องเรื่องนี้ เพราะคงไปต่อไม่ไหว”นายชำนาญกล่าวและว่านอกจากนี้ ยังเสนอให้ภาครัฐพิจารณาลดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจโรงแรม ที่พัก โดยให้โรงแรมจ่ายค่าไฟฟ้า ตามการใช้จริงแทนการจ่ายขั้นต่ำแบบเดิม และขอให้รัฐช่วยเหลือจ่ายค่าแรง 50% ให้กับพนักงานที่ได้รับความเดือดร้อน
